"ไฟกองใหญ่ที่เกิดในบุคคลมีอยู่ 3 กอง คืดไฟราคะ ไฟโทสะ และไฟโมหะ ผู้มีราคะก็เหมือนมีไฟสุมอยู่เช่นเดียวกับผู้มีโทสะ และโมหะเป็นเครื่องเผาอยู่ ไฟดวงใหญ่ 3 กองนี้ เผาผลาญสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่เป็นนิจ ความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ร้อนรำคาญใจอันเกิดแก่คนทั้งหลายนั้น เพราะไฟ 3 กองเหล่านี้ ไฟเหล่านี้กำลังเผาผลาญสัตว์ในโลกอยู่"
"บุคคลใดมองเห็นกองไฟเหล่านี้ พยายามดับกองไฟเหล่านี้เสีย ระงับเสียซึ่งราคะ โทสะ โมหะ ใจจักสงบ ดวงตาที่มืดอยู่จักมองเห็น เกิดความรู้และความบริสุทธิ์"
"เมื่อใจบริสุทธิ์ เพราะมองเห็นกองไฟเหล่านี้แล้ว ความเกลียดชังในบาปจะเกิดขึ้น กองไฟคือราคะ กองไฟคือโทสะ และกองไฟคือโมหะ มอดหมดไปแล้ว ก็จะละเสียได้ซึ่งสิ่งผูกพันทั้งปวง"
ความผูกพันนั่นก็คือห่วงแห่งทุกข์ กองไฟที่เกิดทั้ง ราคะ โทสะ โมหะ ล้วนแต่ดับยากทั้งสิ้น
ตอบลบแค่เราเกิดมาลิมตาดูโลก ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ แค่นี้ก็เท่ากับเราเกิดมาเพื่อเข้าสู่ห้วงแห่งทุกข์แล้ว
จะต้องเวียนว่ายอีกกี่ภพชาติ เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
แม้ความทุกข์จะทำให้เราต้องเจ็บปวดมากมาย แต่ก็ต้องขอบคุณความทุกข์นั้นที่ไม่ทำให้เราติดสุขมากเกินไป
ความทุกข์ที่เกิดถือเป็นตัวเร่งให้เรามีความเพียรที่จะละเสียซึ่งทุกข์ ละเสียซึ่งราคะ โทสะ โมหะ และละเสียได้ซึ่งสิ่งที่ผูกพันทั้งปวง ....
ธรรมของพระพุทธองค์ประเสริฐจริงๆนะคะ ...