มีภูตผีและมีรัก
ทั้งสองจักอยู่ที่นี่
เรื่องราวเล่าขานนี้
คือวจีแห่งรักจริง
ทั้งสองจักอยู่ที่นี่
เรื่องราวเล่าขานนี้
คือวจีแห่งรักจริง
แฮร์ริส เพรสเซอร์ เกิดเมื่อปี ๑๘๔๓ เป็นลูกชายของร้านทำเทียนเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองนิวเบิร์น แฮร์ริสก็เหมือนชายหนุ่มหลายๆคนในสมัยนั้นที่ต้องการเข้าเป็นทหาร
ของกองกำลังฝ่ายสมาพันธรัฐ เมื่อสงครามประกาศอิสภาพของรัฐทางใต้เริ่มขึ้น
แต่เนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนเดียว ทั้งพ่อและแม่จึงอ้อนวอนไม่ให้เขาไป
แฮร์ริส เพรสเซอร์เชื่อฟังความประสงค์ของพ่อแม่ เขาจึงขีดเส้นชะตาชีวิตของตัวเอง
ที่ไม่อาจเอาคืนได้
"เขาตกหลุมรัก"
แคทรีน เพอร์ดี้เพิ่งอายุได้สิบเจ็ด เธอเองเป็นลูกคนเดียวเหมือนกับแฮร์ริส พ่อแม่ของแคทรีนเป็นเจ้าของโรงแรมและโรงไม้ และเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง พวกเขาไม่สมาคมกับตระกูลเพรสเซอร์ แต่ทั้งสองครอบครัวก็เป็นพวกที่อาศัยอยู่ในเมือง หลังจากนิวเบิร์นถูกทหารฝ่ายสหภาพยึดครองเมื่อปี ๑๘๖๒ ทั้งๆที่อยู่ในระยะสงคราม
และการยึดครอง แต่แฮร์ริสกับแคทรีนก็เริ่มพบปะพูดคุยกันที่ริมฝั่งแม่น้ำนูสทุกเย็น
ตอนต้นฤดูร้อน และในที่สุดพ่อกับแม่ของแคทรีนก็รู้เรื่อง พวกเขาโกรธและสั่งห้ามลูกสาวไม่ให้คบกับแฮร์รีสอีกต่อไป เนื่องจากตระกูลเพรสเซอร์จัดว่าเป็นพวกสามัญชน แต่นั่นกลับทำให้หนุ่มสาวยิ่งผูกพัน
กันมากขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทั้งสองคนจะมาพบกัน ไม่นานนักพวกเขาจึงคิดแผนการเพื่อหลบหนีการควบคุม
ของพ่อกับแม่ของแคทรีน แฮร์รีสจะอยู่ในร้านขายเทียนที่ถนน รอดูสัญญาณว่า ถ้าพ่อแม่ของแคทรีนหลับ เธอจะวางเทียนที่จุดแล้วบนของหน้าต่าง
แล้วแฮร์รีสก็จะแอบมาหา เขาจะปีนต้นโอ๊คใหญ่ซึ่งขึ้นอยู่ตรง
นอกหน้าต่างห้องของเธอพอดีและพาเธอลงมา ด้วยวิธีนี้ทั้งสองคนจึงพบกัน
ได้บ่อยมากเท่าที่พอจะทำได้ เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนเข้า
พวกเขาก็ยิ่งรักกันมากขึ้นทุกทีๆ
พอถึงตอนนี้ ทหารของฝ่ายสหภาพยิ่งบีบคั้นรัฐทางใต้หนักขึ้น-
ข่าวจากเวอร์จิเนียดูมืดมน ลือกันว่านายพลลีกำลังถอนร่นจาก
ตอนเหนือของเวอร์จิเนียมาพร้อมกับกองทหารและพยายามจะยึดด้าน
ตะวันออกของนอร์ทแคโรไลน่าคืนมาเป็นของฝ่ายสมาพันธรัฐ
มีการประกาศเคอร์ฟิว และใครก็ตามที่อยู่นอกบ้านตอนค่ำ
โดยเฉพาะผู้ชายหนุ่มๆก็อาจจะถูกยิง แฮร์ริสซึ่งตอนนี้ไม่สามารถพบ
กับแคทรีนได้จึงวางแผนว่าจะอยู่ทำงานที่ร้านของพ่อจนดึก เขาจุดเทียนไว้ตรงหน้าร้านเพื่อแคทรีนจะได้รู้ว่าเขาเฝ้ารอวันพบกับเธอ เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้นานหลายอาทิตย์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาแอบลักลอบส่งจดหมายให้แคทรีนผ่านทาง
ท่านสาธุคุณซึ่งมีเมตตาผู้หนึ่ง จดหมายนั้นขอให้เธอหนีไปกับเขา
ถ้าคำตอบคือตกลง ก็ให้เธอจุดเทียนสองเล่มไว้ที่หน้าต่าง
เล่มหนึ่งแทนคำตกลง เล่มที่สองเป็นสัญญาณบอกว่าเมื่อไหร่จึง
จะถึงเวลาปลอดภัยให้เขาไปรับเธอ คืนนั้นเทียนสองเล่มถูกจุดขึ้น
และแม้จะมีอุปสรรคใหญ่หลวง แต่ทั้งสองคนก็แต่งงานกัน
ในคืนพระจันทร์เต็มดวงนั้นเอง โดยท่านสาธุคุณรูปเดิมเป็น
ผู้กล่าวคำปฏิญาณ พวกเขาทั้งหมดยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อ ความรัก
แต่เคราะห์ร้ายที่พ่อกับแม่ของแคทรีนเกิดพบจดหมายลับอีกฉบับ
ที่แฮร์รีสเขียนมา ด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พ่อกับแม่จึงมาหา
แคทรีนพร้อมกับเรื่องที่ได้รับรู้ แคทรีนยืนกรานอย่างเด็ดเดี่ยวกับ
พ่อแม่ว่ามันแก้ไขไม่ได้แล้ว น่าเศร้าที่เธอพูดถูกแค่บางส่วน
ไม่กี่วันหลังจากนั้น พ่อของแคทรีนซึ่งมีสายสัมพันธ์กับนาย
พันเอกของฝ่ายสหภาพซึ่งรับผิดชอบเรื่องการยึดครองเมืองอยู่ จึงติดต่อกับนายพันเอกผู้นั้นและบอกให้เขาทราบว่ามีสายลับของ
ฝ่ายสมาพันธรัฐแอบแฝงตัวอยู่ คนคนนี้ติดต่อกับนายพลลี และแอบส่งข้อมูลลับเรื่องกองกำลังป้องกันเมืองไปให้ ดังนั้น เมื่อโยงใยกับข่าวลือที่ว่านายพลลีอาจบุกเข้าโจมตี
แฮรร์รีส เพรสเซอร์จึงถูกจับกุมตัวในร้านของพ่อแม่
แต่ก่อนที่เขาจะถูกพาตัวไปแขวนคอ แฮร์ริสได้ขออะไรอย่างหนึ่ง นั่นคือขอให้จุดเทียนไขไว้ที่หน้าต่างร้าน และคำร้องขอของเขาก็ได้รับการยินยอม คืนนั้นแฮร์ริสถูกแขวนคอกับกิ่งต้นโอ๊คยักษ์ตรงหน้าต่างห้องแคทรีน แคทรีนหัวใจสลาย เธอรู้ว่าพ่อของเธอคือตัวการ
เธอไปพบกับพ่อแม่ของแฮร์ริสและเอ่ยปากขอเทียนเล่มที่จุดไว้
ตรงหน้าต่างในคืนที่แฮร์ริสตาย พ่อแม่ของแฮร์ริสซึ่งตกอยู่ในความเศร้าโศก
ไม่เข้าใจว่าคำของร้องแปลกประหลาดนั่นหมายความถึงอะไร แต่แคทรีนอธิบายว่าเธออยากได้อะไรบางอย่างไว้เป็นที่ระลึกถึง "ชายหนุ่มผู้มีน้ำใจงามซึ่งให้ความเอื้ออาทรแก่เธอเสมอมา" พ่อแม่ของแฮร์ริสจึงมองเทียนให้แคทรีนไป คืนนั้นเธอจุดเทียนทั้งสองเล่มแล้ววางไว้ตรงขอบหน้าต่าง พ่อแม่ของเธอพบลูกสาวในวันรุ่งขึ้น แคทรีนฆ่าตัวตายโดยแขวนคอกับต้นโอ๊คยักษ์ต้นเดียวกันนั่นเอง
เทียนนั้นติดอยู่ตลอดทั้งคืนกับอีกวันถัดมา จนกระทั่งไม่เหลืออะไรมากไปกว่าน้ำตาเทียนหยดเล็กๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังสว่างอยู่ สว่างจนถึงคืนต่อมา แล้วก็อีกคืนหนึ่ง เทียนไหม้อยู่สามวัน นานเท่ากับเวลาที่แคทรีนกับแฮร์ริสแต่งงานกัน แล้วจากนั้นก็ดับ ปีต่อมา เมื่อถึงวันครบรอบแต่งงานของแฮร์ริสกับแคทรีน ห้องของแคทรีนซึ่งไม่มีใครอยุ่ก็เกิดไฟไหม้ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ตัวบ้านรอดจากไฟ เคราะห์ร้ายยังตามติดตระกูลเพอร์ดี้ต่อ โรงแรมของพวกเขาถูกน้ำท่วม และโรงไม้ก็ถูกยึดไปจ่ายหนี้ พ่อกับแม่ของแคทรีนซึ่งหมดเนื้อหมดตัวย้ายออกไป ทิ้งบ้านไว้ แต่ว่า....
บางครั้งบางหน มีคนสาบานว่าเห็นเทียนสองเล่มจุดอยู่ที่หน้าต่างชั้นบน บางคนก็สาบานว่ามีเล่มเดียว แต่อีกเล่มหนึ่งจุดอยู่ที่ตึกร้างอีกแห่งหนึ่งตรงถนน จนถึงเดี๋ยวนี้ ผ่านมาตั้งร้อยปีแล้ว คนก็ยังอ้างว่าเห็นเทียนไขจุดอยู่ตรงหน้าต่างบ้านร้างบางหลังแถวๆนี้ แล้วมันก็แปลกนะ คนที่เห็นมีแต่พวกหนุ่มๆสาวๆที่กำลังมีความรักทั้งนั้นเลย
คุณทั้งสองจะเห็นมันหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่คุณมีต่อกัน
from A Bend in the Road. (Nicholas Sparks. P.๑๘๕-๑๘๙)
นี่เขียนจากหนังสือที่อ่านรึเปล่าคะ อืมม์ มีน้องที่สนิทกันคนนึง ชอบอ่านหนังสือของสปาร์คมาก แต่แปลกแฮะ เราไม่ชอบอ่ะ ทำไมเราอ่านหนังสือของสปาร์คแล้วเราไม่ค่อยซึ้ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งที่หนังสือเค้าก็ออกจะขายดิบขายดีขนาดนั้น
ตอบลบ