เราแข่งกับเวลา อุปสรรค์ ความลำบากของเส้นทาง ที่มีแต่โคลน หลุม บ่อ ตลอดเส้นทาง
ไม่มีเส้นทางไหนที่ขบวนรถเราจะวิ่งได้อย่างสะดวกสบายสักสิบ หรือ ยี่สิบเมตร
หมดจากโคลนึง ก็ไปสู่อีกโคลนนึง แต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรค์สำหรับพวกเราครับ
เรายังคงเดินทางกันต่อไป

ล้อลอยครับ

ไปไม่ไหวครับ
ต้องให้วีโก้ลากถอยหลัง

อุปสรรค์ไม่ได้มีเพียงหลุมบ่อ
แม้แต่ต้นไม่ล้มก็มี

วิ่งผ่านลำห้วย

สภาพถนนที่ฝนตกมา
เมื่อ 3 วันที่แล้ว




เราเดินทางเข้ามาถึงจุดที่ลำบากที่สุดของทุ่งใหญ่นเรศวรครับ
ตรงจุดนี้เป็นทางเนินขึ้นเขา ถนนที่เป็นหลุมไม่พอ ซ้ำยังมีหินเข้ามาด้วย
ทำให้รถทุกคันไม่สามารถผ่านเส้นนี้ไปได้โดยลำพัง ทุกคันต้องใช้วินส์ลาก
กันขึ้นไป พี่หนุ่ย ผู้ช่ำชองเส้นทางทุ่งใหญ่บอกว่า
จุดนี้เป็นจุดโหดสุดของเส้นทาง ถ้าผ่านจุดนี้ได้ก็ไม่น่าจะมีอะไร

พี่หนุ่ยลงไปดูลายครับ




รูปด้านบน เป็นรถของพี่โอม ขนถังน้ำมันสองถัง
ไปไม่ไหวครับต้องใช้วินส์ลากขึ้นไป
ส่วนรูปด้านล่าง เป็นหลุมโคลนที่เราต้องผ่านกันไป
ด้านล่างขวา พี่โอมกำลังวางแผนดูลายอยู่ครับ

วีโก้ยังคงไหวอยู่ครับ

รถพี่โอมกำลังลากวินส์ขึ้นเนินครับ




ด่านนี้แต่ละคนเหนื่อยไปพอๆกันครับ ว่าจะรอดไปกันครบ โหดจริงๆ เราเสียเวลาไปกับด่านนี้นานพอสมควร ร่วมสองชั่วโมงได้ เราได้ระยะทางมาไม่ถึงครึ่งเองครับ ยังอีกไกล กว่าจะถึง

สภาพย่ำแย่ไปตามๆ กัน

ขอเวลาเซาะร่องล้อก่อนครับ

เราต้องจอดรอให้ทุกคัน
ขึ้นมาครบก่อนครับ
ถึงจะเริ่มไปกันต่อ

บรรยากาศเริ่มครึ้มลงเรื่อยๆ
เราต้องรีบแล้วครับ

เอาใจช่วย

อืมมม ลุยกันแบบนี้
ตอนนี้เวลา 1 ทุ่มถึงห้วย เซซ่าโว่แล้ว บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดแล้วครับ ความมืดที่เข้ามา ทำให้เราเดินทางได้ช้าลงกว่าเดิมมาก เราต้องเร่ง เพื่อให้ทันเวลากัน เราเพิ่งจะผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดของทุ่งใหญ่กันมา รถทุกคันต้องใช้วินส์ลากรถกันทุกคัน เพราะถนนนอกจากจะลาดชันขึ้นเขาแล้ว หลุมบ่อที่เป็นโคลนที่ลึกเกินครึ่งล้อ แล้วก็ยังมีหินคอยดักอีก ไม่เท่านั้น ยังมีฝนที่ตกปรรอยๆ ลงมาเพิ่มอุปสรรค์เราให้มากขึ้นไปอีก ทุกคนต้องอดทนกันมากในการที่จะผ่านจุดนี้ไปได้ พี่หนุ่ยบอว่าตรงนี้จะยากที่สุด พ้นนี่ไปก็ไม่มีอะไร กว่าเราจะผ่านจุดนั้นมาได้ เราเสียเวลากันไปเกือบสองชั่วโมง
ตอนนี่เวลา 3 ทุ่มครึ่งแล้ว เราเข้ามาถึงบ. จะแกกันแล้วครับ เหลืออีกไม่เท่าไหร่ ก็จะถึงจุดหมายแล้ว เส้นทางจากจะแก ไปหมู่บ้าน ยิ่งใกล้จุดหมายเท่าไหร่แทนที่จะสะดวกสบาย กลับยากมากขึ้นตามลำดับ บางเส้นทางรถไม่สามารถผ่านไปได้ เราต้องใช้ทางเบี่ยงลุยกันเข้าไป ซึ่งบางทางเบี่ยงเหมือนขับรถเข้าไปในดงทุ่งไม้ดีดีนี่เอง บางเส้นดูเหมือนจะไม่ใช่ที่ที่รถจะผ่านเข้าไปได้ บางครั้งรถติดหล่ม เราต้องลงไปใช้สลิงลากกัน ทำงานกันในความมืดเลยก็ว่าได้

เริ่มไม่ไหวแล้วครับ พี่โอมเริ่มติดโซ่แล้ว

น้ำมัน 2 ถัง กับตู้เหล็กอีก 3 ตู้
ไม่น่าไหวครับ

อากาศเริ่มครึ้มๆ ลงเรื่อยๆ

หนทางข้างหน้ายังอีกไกล

ความลึกของหล่มครับ
ลงไปเกินครึ่งล้อแล้ว

ลากกันขึ้นมาาาา

กว่าจะได้ทีละ 1 กิโลเนี่ย
มันเหนื่อยจริงๆ ครับ

รอบตัวเราขณะนี้
มีแต่ป่าครับ

เรามาถึงห้วยเซซาโว่แล้วครับ
อีกนี่ก็จะเข้าจะแกแล้ว

ขอพักหายใจกันก่อนน่ะครับ
พร้อมแล้วลุยกันต่อ
ตอนนี้เวลา 4 ทุ่มกว่าแล้วครับ เรามาถึงวัดวาชุคุแล้ว ... แรกที่เราได้เห็นแสงไฟจากหมู่บ้าน ใจเราชื้นกันขึ้นมาทันที ถอนใจกันเป็นแถบ นึกในใจว่า เฮ้อออ หมดกันซะที่ ถึงทีหมายแล้วเรา ... รถเราวิ่งเข้ามาในตัวหมู่บ้านกะเหรี่ยง แล้วเลี้ยวเข้าสู่วัดวาชุคุ ที่ที่เราจะนอนกันคืนนี้ เราทำสำเร็จแล้วครับ...
หลังจากขนสัมภาระลงแล้วเราก็เริ่มทำกับข้าวกินกัน บางคนก็เตรียมที่นอน บางคนก็ไปอาบน้ำ บางคนก็ตรวจเช็ครถ สำหร้บพร้อมที่จุพาเรากลับกันในเช้าวันพรุ่งนี้ คืนนี้เราทำกับข้าวกินกัน มีหมูผัด กระเพราไก่ ปลากระป๋อง ทุกคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมกับที่เหนื่อยกันมาทั้งวัน
เราเริ่มเข้านอนกันตอนตี 1 กว่า คืนนี้ ที่วัดวาชุคุ....

ยิ่งใกล้ที่หมาย จะแก
ถนนยิ่งแย่กว่าเก่า

ในที่สุดเราก็มาถึงวัดวาชุคุแล้วคับ

บรรดาของที่เราขนมา
ส่งให้ที่วัดครับ

จัดเตรียมที่นอน
อาบน้ำอาบท่า
เตรียมกินข้าวครับ

อาหารกลางวัน
อาหารเย็น
และค่ำของเราครับ

กระเพราไก่ หมูทอด
แล้วก็ปลากระป๋องครับ
อร่อยที่สุดในโลก
(ตอนนี้นะ)

ปิดรายการด้วยการขึ้นไปกราบพระ
บนศาลาที่เรานอนน่ะครับ
เป็น trip ที่สมบุกสมบันมากค่ะ นับถือความตั้งใจไป :)
ตอบลบ