จนไม่น่าเชื่อ บางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงโลก คุณจะเลือกทำอะไรคะ"
"ถ้าฉันเป็นนักอุดมคติ หรือถ้าฉันเชื่อในปฏิหาริย์ฉันจะบอกเธอว่า
ฉันจะลบล้างความหิวโหยบนโลก ฉันจะทำให้โรคภัยทุกโรคสูญสลาย ห้าม
ใครทำร้ายเด็กๆ ฉันจะให้ศาสนาทุกศาสนาหันหน้าเข้าหากัน โปรยปราย
สายฝนแห่งความประนีประนอมห่าใฆย่ลงสู่ผืนโลก ฉันคิกว่าฉันจะทำให้
ความยากจนทั้งหมดมลายหายไป นี่ละ ทุกสิ่งที่ฉันจะทำ...ถ้าฉันเป็นพระเจ้า!"
"และคุณเคยถามตัวเองหรือเปล่าคะว่าทำไม ท่าน ถึงไม่ทำ"
"เธอก็รู้ดีพอๆ กับฉันว่าทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจของ ท่าน
แต่ขึ้นอยู่กับมวลมนุษย์ที่ท่านทรงมอบโลกใบนี้ให้ ความดีอันยิ่งใหญ่
ที่สามารถแสดงตนออกมาให้เห็นน่ะ มันไม่มีหรอกนะ ความดีไม่สามารถ
ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง โซเฟีย ทุกอย่างเป็นเพียงเพราะความดีนั้นตรงข้าม
กับความเลว ความดีนั้นมองไม่เห็นด้วยตา มันไม่คาดหวังอะไรจากตนเอง
ไม่เล่าเรื่องของตัวเอง เพราะถ้าทำเช้นนั้นมันจะสูญเสียความสง่างามและ
ความหมายของตัวมันไป ความดีประกอบด้วยคุณสมบัติที่ไร้ขีดจำกัดจาก
ความระมัดระวังเล็กๆ น้อยๆ ที่ค่อยๆ พอกพูนขึ้นจนสุดท้ายอาจจะเปลี่ยนแปลง
โลกได้สักวันหนึ่ง ลองขอให้ใครก็ได้บอกชื่อคนที่เปลี่ยนแปลงโลกในทางดี
มาห้าชื่อสิ ไม่รู้สิ อย่างเช่น นักประชาธิปไตยคนแรกๆ ผู้ค้นพบยาปฏิชีวนะ
หรือนักสันติภาพ ก็แปลกดีนะ คนที่จะบอกชื่อเหล่านี้ออกมาได้มีน้อยคนนัก
ขณะที่พวกเขาเอ่ยชื่อบรรดาเผด็จการได้อย่างไม่มีปัญหา คนเรารู้จักชื่อของ
โรคร้ายต่างๆ แต่ไม่ค่อยรู้จักชื่อคนที่เอาชนะธรคพวกนั้น จุดสูงสุดของความเลว
ที่แต่ละคนกลัวนั้นไม่ใช่อะไรหรอก มันคือจุดจบของโลก แต่คนเหล่านี้
ทุกคนดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าจุดสูงสุดของความดีก็เคยเกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว...
ในวันสร้างโลก"
"ถ้าอย่านั้น จูลส์ คุณจะทำอะไรเพื่อสร้างความดี เพื่อความดีงาม
อันเป็นที่สุดคะ"
"ฉันก็จะทำอย่างที่เธอทำ! ฉันจะสร้างความหวังในทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไป
ได้แก่คนรอบข้าง เมื่อกี้เธอเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ยอดเยี่ยมโดยที่เธอไม่รู้ตัว
ด้วยซ้ำ"
"ฉันทำอะไรคะ"
"ตอนที่ผ่านซุ้มประตู เธอยิ้มให้ฉัน หลังจากนั้นแป็บนึง นักสืบ
คนที่มากินมื้อกลางวันแถวนี้บ่อยๆ ก็ขับรถผ่านมา เขามองฉันด้วยใบหน้า
บึ้งตึงแบบที่เขาทำเป็นประจำ เราสองคนสบตากัน ฉันส่งรอยยิ้มที่เธอส่ง
ให้ฉันไปให้เขา และขากลับฉันก็เห็นเขา ฉันเห็นรอยยิ้มนั่นบนริมฝีปาก
ของเขา ดังนั้น เราก็พอจะมีความหวัง เขาอาจจะส่งต่อรอยยิ้มนั่นให้ผู้ชาย
หรือผู้หญิงที่เขาไปเจอ ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอทำอะไรลงไป เธอได้ผลิต
วัคซีนต่อต้านช่วงเวลาอึดอัดลึกๆ ในใจขึ้นมา ถ้าทุกคนทำอย่างนั้น ไม่ต้อง
อะไรมาก แค่วันละครั้ง แค่ส่งยิ้มครั้งนึง ลองนึกดูสิ ความสุขจะแพร่
ระบาดไปทั่วโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเธอจะได้สิ่งที่เธอต้องการ"
"ไม่ว่าเธอจะตั้งคำถามกับตัวเองว่ายังไง จงมั่นใจในสัญชาตญาณของ
ตัวเอง และสิ่งที่กำลังทำอยู่ต่อไป"
จาก... เจ็ดวัน เพื่อ หนึ่งนิรันดร
หน้า 69 - 70
..............................................หน้า 69 - 70
นี่หล่ะครับ ที่มาของหัวเรื่องในวันนี้...
วันนี้คุณแจกยิ้มให้กับคนอื่นบ้างหรือยังครับ ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น