12/9/53

These Are The Days Of Our Lives


ในบางครั้ง ฉันมีความรู้สึกว่าได้ย้อนกลับไปในวันเก่าๆ... ที่ยาวนานผ่านมา
เมื่อครั้งที่เรายังเด็ก เมื่อครั้งที่เรายังหนุ่ม
สิ่งต่างๆเหล่านั้นช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกิน ... คุณว่าไหม
ในวันที่เหมือนไม่มีวันสิ้นสุด พวกเราสนุกอย่างบ้าคลั่ง
ดวงอาทิตย์ยังคงฉายแสงอยู่เสมอ และพวกเราก็มีชีวิตอยู่เพื่อความสนุกสนาน
และในบางเวลา มันก็เหมือนกับว่ามีบางสิ่งที่มันสายไปเสียแล้ว และฉันเองก็ไม่เคยรู้
เมื่อในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตเริ่มแสดงออกมา

ในวันเหล่านั้นของชีวิตของพวกเรา
สิ่งไม่ดีทั้งหลายในชีวิต มันช่างเป็นสิ่งเล็กน้อยเหลือเกิน
ในวันเหล่านั้นที่ได้ผ่านไปจนถึงวันนี้ จะมีสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นจริงอยู่
เมื่อฉันมองดู และฉันพบว่า .. ฉันยังคงรักคุณอยู่

คุณไม่สามารถย้อนนาฬิกากลับ คุณไม่สามารถย้อนกระแสน้ำกลับได้
ช่างน่าเสียดายนัก
ฉันจึงอยากย้อนกลับไปสักครั้งหนึ่งด้วยรถไฟเหาะ
เหมือนกับว่าชีวิตนี้เป็นดังเกมส์
ที่ไม่เคยใช้การนั่งลง แล้ว คิดทบทวนกับสิ่งที่เราได้เคยทำลงไป
เมื่อใดที่คุณสามารถย้อนกลับไปและมีความสุขอยู่กับมัน ผ่านความรู้สึกเป็นเด็กของคุณ
แต่บางครั้งมันเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว และฉันเองก็ไม่รู้ได้
สิ่งที่ดีกว่าก็คือการนั่งลงและปล่อยให้สิ่งต่างๆ ผ่านไป

นั่นเพราะวันเหล่านั้นของชีวิตเรา
มันได้บินผ่านไปอย่างรวดเร็วไปกับเวลา
และแม้ว่าวันต่างๆเหล่านั้น จะผ่านไปเท่าใด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลืออยู่
เมื่อฉันมองดู ฉันจะยังคงพบว่า มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย

วันต่างๆเหล่านั้นในชีวิตของเรา
สิ่งไม่ดีต่างๆ มันช่างเล็กน้อยเหลือเกิน
และแม้วันต่างๆ เหล่านั้นจะผ่านไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นจริงอยู่เสมอ
เมื่อใดที่ฉันมองดูฉันจะพบว่า

ฉันยังคงรักคุณ

ฉันยังคงรักคุณมิคลาย


26/8/53

สิทธัตถะพุทธะ ทรงแสดงธรรมต่อหน้าชฎิลทั้งสามและบริวาร

"ยามใดเมื่อความคิดของบุคคลฟุ้งซ่าน ไม่มีระเบียบ ยามนั้นอวิชชาคือความเขลา ย่อมเข้ามาปกคลุมซึ่งความคิดของบุคคลนั้น เหมือนหนึ่งกลุ่มหมอกคลุมอยู่ในนภากาศ ปิดธรรมอันควรเห็นไม่ให้เห็นฉะนั้น และเหมือนกับหมู่ไม้ในป่าใหญ่ อันโชกชุ่มด้วยน้ำมัน เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นได้เช่นเดียวกัน"

"ไฟกองใหญ่ที่เกิดในบุคคลมีอยู่ 3 กอง คืดไฟราคะ ไฟโทสะ และไฟโมหะ ผู้มีราคะก็เหมือนมีไฟสุมอยู่เช่นเดียวกับผู้มีโทสะ และโมหะเป็นเครื่องเผาอยู่ ไฟดวงใหญ่ 3 กองนี้ เผาผลาญสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่เป็นนิจ ความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ร้อนรำคาญใจอันเกิดแก่คนทั้งหลายนั้น เพราะไฟ 3 กองเหล่านี้ ไฟเหล่านี้กำลังเผาผลาญสัตว์ในโลกอยู่"

"บุคคลใดมองเห็นกองไฟเหล่านี้ พยายามดับกองไฟเหล่านี้เสีย ระงับเสียซึ่งราคะ โทสะ โมหะ ใจจักสงบ ดวงตาที่มืดอยู่จักมองเห็น เกิดความรู้และความบริสุทธิ์"

"เมื่อใจบริสุทธิ์ เพราะมองเห็นกองไฟเหล่านี้แล้ว ความเกลียดชังในบาปจะเกิดขึ้น กองไฟคือราคะ กองไฟคือโทสะ และกองไฟคือโมหะ มอดหมดไปแล้ว ก็จะละเสียได้ซึ่งสิ่งผูกพันทั้งปวง"


15/8/53

วัฏจักรของความห่างไกล

เพราะว่าโลกนี้มันกลมหรือเปล่า ฉันยังคิดถึงอยู่
เพราะว่าโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เหรอ .. ทำให้ฉันยังไม่ลืม
เพราะฤดูกาลหมุนเวียนเปลียนไปมา น้ำตาฉันยังคงไหล

ฉันพบเธออีกครั้ง ในความทรงจำ ในคืนหนึ่ง
ในคืนที่หมุนเวียนกลับไปกลับมา
ฉันยังบอกกับเธอว่า ... ยังคงรักอยู่เสมอ เหมือนทุกวันที่ผ่านมา

ฉันมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น... เหมือนดังทุกวันที่เคยมอง

"เป็นอย่างไรบ้าง... ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า??"
เสียงเธอที่เอ่ยถาม ดังแว่วเข้ามาในหู
ท่ามกลางเสียงพูดคุย กันในร้านกาแฟ...
ชีวิตผู้คนยังคนปกติ ...
ชีวิตฉันก็ยังคงปกติ ...
ชีวิตเธอก็คงยังปกติ ...

เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่าน
ทุกฤดูกาลที่เปลี่ยน
ทุกรอบการหมุนรอบดวงอาทิตย์
ทุกรอบการหมุนรอบตัวเอง

13/8/53

ทำบุญ ทำบุญ

วันนี้เป็นวันตัดสินคดี เจ้าปลาซ๊อคเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนามปลาดูด เจ้าสองตัวนี้ถูกซื้อตัวมาตั้งแต่ยังเด็กครับ .. ตัวละ ห้าบาท คิดดูอ้ะคับ ตัวกะติ๊ด เลี้ยงมาจนตัวยาวเท่าท่อนแขนได้ ฟุตกว่าๆ นั่นหล่ะ .. ข้อดีขอมันคือ ตอนเด็กจะกินสาหร่าย ขี้ตะไคร่ ตามสรรพคุณของคนขายเค้าว่ามา แต่พอเลี้ยงไปจนเติบโต ก็จะเริ่มแย่งอาหารปลา เริ่มก่อกวนปลาตัวอื่นด้วยการไปเกาะดูดที่ตัวปลาตัวอื่น ไม่ก็มาขโมยไข่ปลาไปกิน ..มิน่า พักหลังปลาหมอสีที่เลี้ยงวางไข่ไม่ยักติดซักตัว หายหมด
วันนี้เลยปรึกษากะแม่ ตัดสินคดีความว่าจะเอามันไปปล่อยที่บ่อปลาที่ทำงาน เลยจับยัดใส่ถุง ใส่ในหลังรถแล้วออกเดินทาง

ระหว่างทางแวะตลาด ซื้อปลาช่อนไปปล่อย ได้มา 3 ตัวครับ ตัวไม่ใหญ่มาก มีตัวนึงท้องด้วย แม่ค้าเค้าว่ามา คงจะเป็นท้องแรกมั้ง ดูจากขนาดตัวแล้ว โถถ น่าสงสาร ท้องแรก ก็จะโดนทุบหัวซะแล้ว เลยตัดสินใจไม่คิดอะไรแล้ว เอาสามตัวนั่นมาเลย แล้วก็ซื้อขนมปังไป 5 ปอนด์ เอาไปเป็นอาหารตัวอื่นๆ ด้วย

พอถึงบ่อก็ปล่อย มีเรื่องประหลาดอย่าง ปลาช่อน 3 ตัวที่ปล่อยไป มีตัวนึง ไม่ยอมไปไหนครับ ลอยตัวตาจ้องผมอยู่ ส่วนอีกสองตัวหายหัวไปแระ ... เจ้านี่คงจะคิดขอบใจเรามั้ง ที่ีมาช่วยชีวิต ก็คิดในใจว่าเอออ ดีแล้ว ไปออกลูกแล้วเลี้ยงให้โต ให้เป็นปลาที่ดีของประเทศชาตินะ ... อย่าไปโกงกิน อย่าไปก่อม๊อบล่ะ .. เอ... ไงเนี่ย ..
สักพัก มันก็ไป แปลกดีนะเนี่ย ..

สุดท้ายก็ให้ขนมปัง บ่อนี้เป็นบ่ออยู่หน้าที่ทำงานครับ ใหญ่พอดู ในบ่อมีปลามากมาย เรียกว่าไม่แพ้บ่อปลาวัดไหนๆ ปลาสวายที่นี่ตัวโตๆ เยอะเลย ผมชอบมาปล่อยปลา เพราะคิดว่าซื้อปลามาราคาไม่กี่ร้อย ช่วยชีวิตได้จากการเฉียดตาย น่าจะได้บุญเยอะ เทียบราคาแล้ว ถูกกว่าไปกิน MK อีก ...

วันนี้เท่านี้ก่อนล่ะ อิ่มบุญแล้ว ส่งบุญให้กับผู้อ่านด้วยล่ะกัน
high: ดีใจได้ทำบุญ
low: ได้ซ๊อคเกอร์ 2 ตัวที่ปล่อย ไมมันไม่มาเหลียวหลังดูเรยเนี่ยย ช้านเลียงแกมาจนโต ไม่สำนึกเรยยยย
รู้งี้ตัดหางไปด้วยซะดีก่า.... ชิ ..

12/8/53

วันแม่

วันนี้วันแม่คับ ไม่ได้ไปไหนนอกจากพาเจ้าใบเตย หลานสาวคนเดียวในบ้านไปเที่ยววัดพระแก้ว

เจ้านี่ไม่เคยไปวัดพระแก้วจริงๆ เพราะมาแต่เช้า ตื่นเต้นมาก ที่จะได้ไป
พี่สาวผมบอกว่า ครูที่โรงเรียนสอนเรื่องวัดพระแก้ว เจ้าใบเตยเลยรบเร้าจะให้พาไป

เราออกกันตอนสิบโมงครึ่งได้ แวะร้านไก่ย่าง หลังเวทีมวยราชดำเนิน ไก่เค้าอร่อยจริงๆ
ท่าทางคงจะต้องเป็นร้านประจำแระ เจอใครคงชวนมากินแน่...
เสร็จจากร้านไก่ย่างแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เราแวะจอดรถกันแถวศาลหลักเมือง
เสียค่าที่จอดไปยี่สิบบาท พาเดินไปไหวศาลหลักเมืองกัน ผมไม่ได้ทำไรมาก คอยจัดหา
ดอกไม้ ธูปเทียนให้ ส่วนแม่ก็ทำหน้าที่พาใบเตยไปไหวตามที่ต่างๆ ในศาลหลักเมือง
พี่พี่ กับพี่เขต สลับกันเข้าไปไหว
เสร็จแล้วก็เดินข้ามถนนไปวัดพระแก้วกัน ตามที่เจ้าใบเตยขอไว้
พอเข้าไปในอุโบสถ ใบเตยดูตื่นตาตื่นใจใหญ่ กับความสวยงามภายในวัด
วันนี้คนไม่ค่อยเยอะมากเท่าไหร่ ไม่เหมือนตอนปีใหม่ที่เบียดเสียดกันแทบแย่
วันนี้มีแต่ฝรั่ง ชาวต่างชาติ คนไทยบ้างประปราย

เสร็จจากวัดพระแก้ว เราก็เดินกลับมาที่รถ เพื่อไปวัดโพธิ์กันต่อ
ความจริงปกติแล้วผมกับแม่จะเดินจากวัดพระแก้วไปวัดโพธิ์ แต่วันนี้มีเจ้าใบเตยมาด้วย
กลัวจะเดินไม่ไหว แล้วงอแง
เราโชคดีที่ได้ที่จอดรถไม่ห่างจากวัดมากนัก เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปภายในกัน
เหมือนเดิม ผมคอยจัดหาธูปเทียนดอกไม้ให้ ไม่ค่อยได้ไหว้มากเท่าไหร่
ส่วนมากจะยืนถือของมากกว่า ก็ให้ใบเตยกับแม่ผมเค้าไหวกัน
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับบ้าน วันนี้ได้ไป 3 ที่ สมใจเจ้าใบเตยล่ะครับ

ต้นปีคงพาไปด้วยไม่ไหวแน่ เพราะคนเยอะมาก ขนาดผมกับแม่ ยังแทบจะไม่ไหวกันเลย

วันนี้ดี ได้พักผ่อน ไปเที่ยวกัน สมกับเป็นวันครอบครัวอีกวัน ....

9/8/53

ภาพความรัก


SongSketch01.wma




เธอคือความฝันที่ฉันวาดไว้ เธอคือความหมายที่ใจใฝ่หา
ร่างภาพเธอขึ้นมา วาดไปตามจินตนาการ
แสงแดดสีทอง ฉายส่องพื้นทราย
วาดเส้นวาดสาย ป้าย ป้าย ความฝัน
ระบายสีดวงตะวัน แต่งแต้มไว้ในดวงตา

ภาพเธอสวยงาม สมตามเจตนา
อ่อนโยนไร้มายา เป็นดั่งดอกไม้ในพงไพร
เธอคือภาพเดียวในชีวิต เติมเต็มความฝันที่ขาดหาย
เธอคือภาพความรัก ที่อยู่ในจินตนาการ

เธอคือความรักที่ฉันวาดไว้ เธอคือความหมายที่ใจใฝ่ฝัน
ทุ่มเทคืนและวัน สร้างสรรค์จินตนาการ
แสงแดดสีทอง ฉายส่องพื้นทราย
สีรุ้งวาดสาย ป้าย ป้าย ฟากฟ้า
ภาพเป็นแม้เพียงมายา แต่ดูเหมือนจริงยิ่งกว่า

ภาพเธองดงาม สมความปรารถนา
อ่อนหวานงามสง่า ดุจดังประกายแสงในดวงดาว
เธอคือภาพเดียวในชีวิต เธอทำให้ความฝันมีความหมาย
เธอคือภาพความรัก ที่อยู่ในจินตนาการ

ระบายสีรุ่งอรุณ ณ ที่ขอบฟ้า เมื่อเธอลืมตาตื่นมารับตะวันดวงใหม่
ระบายแสงให้ดวงจันทร์ ให้เธอพัก หลับและฝันดี

เธอเดินเข้ามาในชีวิต เธอทำให้ความฝันมีความหมาย
เธอคือภาพความรักที่อยู่ในจินตนาการ
เธอคือภาพเดียวในชีวิต เติมเต็มความฝันที่ขาดหาย
เธอคือภาพความรักที่อยู่ในจินตนาการ
เธอคือภาพความรักที่อยู่เหนือกาลเวลา

26/2/53

วิธีทำโยเกิร์ต

เรามาลงมือทำกันเลยนะครับ
1. เลือกนมสดรสจืด ยี่ห้อ ดัชมิลค์ ขนาด 830 ซีซี จะทำได้ประมาณ 7 ถ้วย(ถ้วยขนาด 150 ซีซี) นมสดจิตรดา ยิ่งดีแต่หายากหน่อย ยี่ห้ออื่นก็พอได้นะ ถ้ารักสุขภาพจริงก็ใช้ Fat 0 % ไปเลย (แต่ทำแล้วเนื้อไม่ค่อยเนียนเท่าไร)
2. ซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เพื่อเป็นหัวเชื้อ เมื่อก่อนใช้แต่ยี่ห้อ ดัชมิลค์ แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ แอคทีเวีย ถึงปริมาณจะน้อยกว่าแต่ทำแล้วออกมาดูดี 1 กระป๋อง ต่อ นม 830 ซีซี (หรือ 3 กระป๋อง ต่อ นม 2 ลิตร)
3. ใช้ชามที่เข้าไมโครเวฟได้ เทนมลงไปตั้งเวลาประมาณ 9-10 นาที ที่กำลังไฟสูงสุด
4. เสร็จแล้วยกมาตั้งให้พัดลมเป่าเพื่อจะได้ทำในขั้นตอนต่อไปได้เร็วขึ้น ระหว่างนี้ใช้ช้อนตักฝ้าที่ผิวหน้าออก
5. เมื่อนมลดความร้อนลงมาเหลือแค่อุ่นๆ (ตักนมทานได้โดยไม่ลวกปาก) เปิดฝาโยเกิร์ต ตักนมลงไปในโยเกิร์ต 1-2 ช้อน คนที่ผิวหน้าโยเกิร์ตให้นมเข้ากันกับโยเกิร์ตได้ดี (เคยลองตักโยเกิร์ตลงไปในนม กว่าจะคนให้โยเกิร์ตละลายเข้ากับนม มันยาก) แล้วตักโยเกิร์ตที่ผิวหน้าที่คนเข้ากันดีแล้วลงไปในชามนม คนให้เข้ากัน
6. ทำในขั้นตอนที่ 5 จนโยเกิร์ตหมด
7. หาถ้วยขนาดกำลังพอทานคนเดียว ตักโยเกิร์ตใส่ถ้วย (ผมใช้ถ้วยโยเกิร์ตดัชมิลค์ขนาด 150 ซีซี ซึ่งมีอยู่เยอะ จะได้ 7 ถ้วย)
8. ใช้ช้อนตักฟองอากาศที่อาจมีเนื่องจากการตักโยเกิร์ตใส่ถ้วย เพื่อให้ผิวหน้าโยเกิร์ตที่เสร็จแล้วออกมาดูเนียน
9. ตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิปกติประมาณ 24 ชม. ถ้ามีฝาปิดถ้วยก็จะดีกันเศษฝุ่นผงลงไป อ้อ! ระวังมดขึ้นด้วยนะ (ผมวางในถาดหล่อน้ำไว้)
10. เมื่อครบ 1 วันแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะได้โยเกิร์ตเนื้อเนียน ให้นำเข้าตู้เย็นในชั้นธรรมดา หลายชั่วโมงหน่อย จะทำให้เนื้อแน่นขึ้น แต่ไม่ข้นเท่าที่เค้าขายนะ (ถ้าต้องการข้นก็ใส่โยเกิร์ตหัวเชื้อให้มากขึ้น ต้นทุนก็จะสูงขึ้น - ซื้อกินดีกว่าไม่ต้องเหนื่อย -
11. ผมนำออกมาทาน เช้าถ้วย เย็นถ้วย ทำครั้งหนึ่งทานได้ 3-4 วัน

11/1/53

มากไปหรือเปล่า?



อาจจะมีเพียงแค่ครั้งเดียวที่เธอพอใจ
ที่ฉันให้เธอเลิกรักเริ่มต้นใหม่
แต่ฉันคงไม่ใช่ ที่เธอเคยสนใจ
ไม่ฃ้ำรอยแผลใจกันอีกที
......
แต่ไม่มีเพียงสักครั้งเดียวที่จะทำใจ
ที่จะให้ฉันเลิกรักเริ่มต้นใหม่
ฉันคงไม่ใช่ แต่ฉันยังสนใจ
จะฃ้ำรอยแผลใจไปนานๆ
.....
อยากจะรอเธออย่างนี้
จะไม่มีใครสักคน ปล่อยให้ใจมันสับสนและเดียวดาย
อยากจะรักอยู่อย่างนี้
จะไม่มีใครเคียงกาย
จะรอจนสุดท้ายของหายใจ
มากไปหรือเปล่า เศร้าไปหรือไร
ที่จะมัดตัวมัดใจไปจนตาย
-----------
อยากจะรอเธออย่างนี้ จะไม่มีใครสักคน
ปล่อยให้ใจมันสับสนและเดียวดาย
อยากจะรักอยู่อย่างนี้
จะไม่มีใครเคียงกาย
จะรอจนสุดท้ายของหายใจ
-------
*มากไปหรือเปล่า เศร้าไปหรือไร
ที่จะมัดตัวมัดใจไปจนตาย*