26/12/52

Ready to Painter Party 2010


Music by New Order : Regent [Fire Island Mix]

วันนี้ไปบ้านครูเป้มาครับ
ใกล้ปีใหม่แล้วเลยถือโอกาสซื้อของไปหวัดดีครู
เดี๋ยวช่วงปีใหม่จะยุ่ง เลยไปจะไม่ดี ได้โอกาสเสาร์นี่ เลยได้ไป

เช้านี้อากาศดีจัง มีหมอกลงแต่เช้า (มิน่าเมื่อคืนร้อนแปลกๆ)
กลิ่นหมอกยามเช้าในฤดูหนาวนี่ช่างหอมจริง...
กลิ่นมันสดชื่น ดี ...

ไปโรงเรียนบ้านริมน้ำ ได้มีโอกาสคุยกัยครูหลายเรื่อง
เรื่องแรกเกี่ยวกับความเป็นห่วงเพื่อนคนนึงที่ได้หมั้นกับแฟนแล้ว
และก็มีกำหหนดแต่งกันช่วงนี้หล่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวการแต่ง .. คงมีปัญหากันอีก
ความรักเนี่ย มันอยู่ที่ความคาดหวังนะ ถ้าเราคาดหวังมาก แล้ว...
ไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็จะมีแต่ความทุกข์ ..
คุยกับครู จับมาได้ประโยคนึง ครูว่า ถ้าเราอยู่ๆกันไป โดยไม่คาดหวัง
อยู่กันแบบไปวันๆ ไปเรื่อย มันก็จะอยู่กันไปได้ยาว ...

เพื่อนผมเค้าเป็นคนจริงจังมากไป อะไรก็ต้องให้ได้แบบนั้น
แฟนเค้าก็ทนเสียเหลือเกิน .. แต่ก็ทนกันมาจนสามารถหมั้นกันได้
แต่การหมั้นหรือแต่งงาน ก็ไม่ได้จะหมายถึงว่าทั้งคู่จะอยู่กันอย่างมีความสุข
ทั้งสองก็ต้องปรับตัวเข้าหากันด้วย
ไม่น่าเชื่อว่า ความอดทน เป็นสิ่งสำคัญที่จะประคองให้สองคนอยู่ด้วยกันได้

บางคนอาจคิดว่าไม่จริง .. ความรักต่างหาก.. แต่พอได้ลองไปถามดูกับคนที่เค้า
สามารถอยู่ด้วยกันจนแก่แล้ว ทุกคนมักจะบอกว่า ความอดทน.. ไม่มีใครบอกว่าความรักเลย

ก็คิดว่า เจ้าความรัก น่าจะเป็นเพียงแค่ "เชื้อ" เท่านั้นมั้ง ที่จะทำให้สองคนมาอยู่ด้วยกันได้
พอนานไป เชื้อนี้ก็จะมอดลง จากนั้น ถ้าจะยังคงอยู่กันได้ ก็เพียง ความอดทนของแต่ละคน
นั่นหล่ะ มั้ง .. ทนอะไร .. ทนสิ่งที่แต่ละคนเป็น ทนสิ่งแวดล้อมที่เข้ามา .. ทนสิ่งไม่ดีที่จะเริ่มเกิด
ทนกับอนาคตที่ไม่แน่นอน ..
แต่สิ่งที่จะให้ความอดทน มีอยู่ได้ ตั้งอยู่ได้ ก็น่าจะเป็นกำลังใจที่อีกคนมีให้นั่นหล่ะ

"ก็เพราะเรามองหาแต่ที่เราไม่มี ทำให้เรามองแต่สิ่งที่ว่างเปล่า .. "
ที่ก็เป็นอีกคำ ที่จับมาได้ .. เราไม่ได้มองสิ่งที่เรามี หลายครั้ง เรามัวแต่มองหา
สิ่งที่เราไม่มี นั่นก็คือความว่างเปล่า .. ว่างเปล่ายังไงล่ะ
ก็มันยังไม่มีไง มันก็เลยว่างเปล่า .. จริงไหมล่ะ อยากมี อยากได้
กับความว่าเปล่า ไปยึดเอาแต่ความว่าเปล่า .. ไม่มองสิ่งที่เรามี ..
เลยไม่เห็นประโยชน์จากมัน .. เป็นทุกข์ .. อีก

ช่างเหอะ เข้าเรื่องอื่นดีกว่า .. อีกเรื่องที่คุยกัน ก็ Painter Party ปี 2010
ที่ครูมีแผนจะจัด 30 ธค. 54 ตอนนี้ ก็เตรียมงานกัน เดี่ยวว่า หลังปีใหม่
จะเข้าไปช่วยครูจัดสถานที่ ปีนี้น่าจะสนุกน่ะ แต่หวังอย่างเดียว ว่า อากาศวันนั้น
อยากให้หนาวอยู่ ไม่อยากให้ร้อน เร้ยยย .. ครู

ps. วันนี้ก่อนเข้าไป และซื้อกุ้งเผาเข้าไปกิน
รู้สึกไม่ดีเลย เพราะซื้อกุ้งเป็นๆ แล้วให้แม่ค้าเผาให้ กุ้งเค้าจะเลี้ยงไว้ในบ่อน่ะ
เราอยากได้ก็ช้อนเอา แล้วแม่ค้าจะชั่งกิโล แล้วเอาไปเผามาให้เรา
แม้ว่าเราจะไม่ได้ตักกุ้งเองก็เหอะ แต่ตอนเห็นแม่ค้าเค้าเผาแล้ว เฮ้อออ
สลดใจไงไม่รู้ กุ้งบางตัว มีไข่อยู่ที่พุง ก็โดนจับเผา
มันก็มีจิตใจนะ มีลูกเป็นไข่ก็คงรักแล้วอยากให้ลูกเกิดมา แต่เราก็จับมันเผาทั้งเป็น
แบบนี้น่าจะเรียกว่า ตายทั้งกลมมั้ง .. ไม่เอาล่ะ คราวหน้าไม่ซื้อกินแบบนี้แล้ว
ถ้าอยากกิน ก็ซื้อที่เค้าย่างมาแล้วดีกว่า เห็นย่างสดๆ แล้ว เห้ออ สลดใจ

นอนล่ะคับ บาย ...

18/12/52

ความรักของฉัน

ความรักของฉันดังกังวานไกล ฝากไว้ในเพลงบรรเลงรำพัน
ดั่งทิพย์ประทานให้มาปลอบขวัญ แด่เธอ
ความรักของฉันดังจันทร์รำไพ ฝากแสงรักนี้ไปในยามราตรี
ทั่วแดนฟ้าสว่างด้วยรัชนี นิรันดร์
เฝ้าพะวงรักเธอได้แต่พร่ำเพ้อละเมอหมดใจ
ฉันคอยเฝ้าวอน ฝากลมไป ให้เธอตอบฉันรักมั่นเสมอ
29
ความรักของฉันดังดวงตะวัน เฝ้ารักนิรันดร์มิเคยเลือนไกล
สู่ฟ้าคืนมาในวันใหม่ มิลืม”


จาก http://www.thapra.lib.su.ac.th/objects/thesis/fulltext/thapra/U-kaew_Sanasen/Chapter5.pdf

5/12/52

เสน่หา



ความรักเอย
เจ้าลอยลมมาหรือไร
มาดลจิต มาดลใจ เสน่หา

รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า
หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแกล้งเพียงแต่แลตา
ยั่วอุราให้หลงลำพอง

สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง
ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย

สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง
ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย

30/11/52

หยุด



ฉันนั่งยิ้มลำพัง หัวเราะลำพัง สดชื่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ตั้งแต่ได้พบกับเธอนั้น เรื่องจริงกับความฝัน เกิดขึ้นด้วยกันทันตา

ฉันอยากจะหยุดเวลานี้
ตั้งแต่วินาที ที่ชีวิตมีเธอเข้ามา
เธอทำให้คนที่เหนื่อยล้านั้นกล้าจะเปิดหัวใจ
ตั้งแต่วินาที ที่ชีวิตมีเธอเข้ามา

หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว
ฉันนั้นรู้ทันที และรักทันที เธอคือความโชคดีที่เข้ามา
ตั้งแต่ได้พบกับเธอนั้น ชีวิตเหมือนความฝันที่เกิดขึ้นตอนลืมตา

ฉันอยากจะหยุดเวลานี้
ตั้งแต่วินาที ที่ชีวิตมีเธอเข้ามา
เธอทำให้คนที่เหนื่อยล้านั้นกล้าจะเปิดหัวใจ
ตั้งแต่วินาที ที่ชีวิตมีเธอเข้ามา

หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว

หยุดอยู่ตรงนี้ หยุดแล้ว...
หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว

หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว

หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว

หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีสักแค่ไหน
หยุด หยุดความรัก ทั้งหัวใจ จะหยุดอยู่กับเธอคนเดียว

25/11/52

ดวงซวยจิง กู

"ไหน โจ๊กลองอธิบายมาซิว่าที่โจ๊กทำ มันเป็นยังไง"
" เอ่ออ อาา ก็ Hutch ส่งข้อมูล Summery วันที่ 1 เดือน 10 มา
ผมก็เอามา compare กับยอด summery CDR ที่เรามีโดย Group by ชั่วโมง
by Route in/out ได้ยอด sum มาเทียบกัน แล้วทำเป็นเอกสารส่งให้ Hutch
จากนั้น ก็จะทำการแลก CDR กันคับ"

"ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่ว่าไม่ใช่ โจ๊กทำไม่ถูก"

"อ้าวว เวง กู ผิดอีกแล้ว ไงเนี่ย"

"เป็นพี่ พี่ไม่สนยอด Summery นะมันไม่ได้บอกอะไรเราเลย
ทำไมโจ๊กไม่ให้เค้าส่ง CDR มาเลย แล้วเอามาเทียบกัน จะได้เห็นว่า Call ไหนที่แตกต่าง"

" ก้อ ก้อ ใน mail ก็บอกน่ะพี่ ว่า เด๋วจะมีการส่ง CDR กันต่อไป เพราะเค้าก็ถามมาว่าจะให้ส่งแบบไหน
ผมเลยตอบ mail ไปว่าให้ลองส่งทาง e-mail ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ไหวจะให้ FTP ไฟล์กัน
เพราะ FTP ไฟล์มันต้องผ่านอีกส่วนงานนึง มันจะยุ่งยากคับ พี่ลองดู mail ข้างส่งสิ"

" อืมมม.... น่านน่ะ น่านน่ะ พี่ว่าโจ๊กทำไม่ถูกแล้วล่ะ ไหน ไหนโจ๊กลองว่ามาซิ ว่าวางแผนยังไง
ต่อไปถ้าระบบมัน run แล้ว"

"ก้ ก็ ถ้า process มันเข้าตารางเวลาแล้ว ก็จะมีการแลกข้อมูล summery รายวันกัน
ซึ่งตอนนั้นจะหมายถึงว่าข้อมูลเราตรงกันแล้ว ไม่มี Diff กัน หรือ diff ในระบบไม่เกิน 1%
แต่ก่อนหน้านั้น เราจะต้องแลกข้อมูล CDR ที่เป็นรายวันกันก่อน เพื่อหาส่วนที่ Diff เพื่อให้
ชุมสายเค้าไป adjust ในส่วนต่างให้มันตรงกัน"

" ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่แล้ว"
"เอ้า กู .. แล้วถามทำไมวะ"
"ถ้าโจ๊กเทียบรายวันมันต่างกันนิดเดียว ทบเป็นรายสัปดาห์ เป็นรายเดือน diff มันจะมากขึ้นนะ
พี่ว่าจะต้องส่ง CDR มาตรวจกันเป็นรายวันเลย ถึงจะตรงที่สุด"

"โอ้ววว แม่เจ้าาา"
"เอ่ออ พี่คับ CDR วันนึงของ operator นึงมันก็หลายสิบล้าน record คับ
แล้วต้องเทียบกันกับทุก operator รวมแล้วเป็นร้อยล้าน record ระบบไหนก็ทำไม่ไหวหรอกคับ"

"..... .... .... งั้นก็ส่ง Summery มาเทียบกัน แต่ขั้นแรกโจ๊กต้องเทียบ CDR เป็นรายวันก่อนนะ
แล้วหาส่วนต่างเอามเทียบ ปรับให้ตรงกันมากสุด"

"... .. เอ่อออ นั่นหล้ะ ท่กรูพูดไปเมื่อกี้เรยยย พูดซ้ำทำไมวะ ..."

"แล้วตอนนี้ทำกับ Operator ไหนไปแล้วบ้าง"
"ก็มี AIS คับเคยแลก CDR กัน ตอนแรก Diff กันเยอะมาก ผมก็คัดเอาส่วนต่างมาดู
ก็เห็นว่ามี time ต่างกัน ตรงที่ชุมสาย ก็ให้ชุมสายไปปรับ ผลตอนนี้ก็diff แทบเป็น 0 ต่างกันไม่กี่ Call คับ
ส่วนอันอื่น ก็มี True ก็เหมือนกัน ไม่ต่างกันมากครับ ตอนนี้ทำกับ Hutch แล้วต่อไปก็ DTAC ส่วนขอ
TAC จะแลก CDR กันก่อน แล้วค่อยทำตามตารางเวลาจริงครับ"

"อืมม งั้นโจ๊กไปเขียน Flow มาแล้วกันนะ "

"คับ ..."
" เอ้อออ... แล้วที่กรูคิดงานมานี่ มันผิดใช่ไหมวะเนี่ยยย "
"เบื่อออ เซ็ง"

23/11/52

นี่ เลยย...

ขอให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบ
แม้นว่าบางทีจะไร้สาระสำหรับคนรอบข้าง
แม้นว่าบางทีดูจะงี่เง่าสำหรับคนอื่น
แต่ทำแล้ว เราสบายใจ ทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร

เบื่อกับสิ่งที่ต้องทำ...
เฮ้ออ
ให้ได้ทำ ก่อนที่สมองฝั่งจินตนาการมันจะฝ่อไปตามสังขาละวัย
ก่อนที่ความจำมัรจะแย่ลงไปกว่านี้ ...

เหลืออะไรอีกบ้างล่ะ ที่จะให้ฉันทำ..
บอกมาเหอะ .. จะกลั้นใจทำ ...
ฉันทำได้นะ ทำได้ ไม่ต้องห่วง ..
มันอาจจะนานสักหน่อย ...
มันอาจจะล้มเหลว ล้มเหลว จนต้องทำใหม่
มันอาจจะช้าไม่ทันใจ จนงานอื่นต้องกระทบตาม

เฮ้.. แต่ฉันพยายามทำอยู่นะ เห็นมั้ย ดูฉันสิ
ฉันเครียดกับมันจะตาย
ฉันจริงจังกับมันมาก
และอยากให้มันจบไวๆ เหมือนอย่างที่คุณต้องการเหมือนกันหล่ะ
จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ... ความรู้เท่านี้ ความสามารถเท่านี้
ความพยายามเท่านี้ .. ฉันให้ได้เต็มที่แล้ว..

เฮ้อออ...
ฉันถอนหายใจอีกแล้วว ..
ถอนผ่านทางคอมพ์ ความจริงที่พิมพ์ ฉันไม่ได้ถอดเฮือก ออกมาจริงหรอก
มันถอนผ่านตัวหลังสือเองหล่ะ คุณคนอ่านเข้าใจมันไหมล่ะ ...

เฮ้อออ ง่วงง จัง

21/11/52

กลับมาแว๊บนึง

หวัดดีคับ...

ห่างหายจากการอัพเดทบล๊อคไปนานแสนนานมาก
ไม่รู้หมู่มวลสมาชิกไปไหนกันหมดแล้ว
คงไม่มีใครมาอยู่รออ่านกันแล้วมั้ง

ช่วงนี้มีสอบ comฯ อยู่คับ ก้อ มี 2 part
part ละ 2 วิชา เอาคะแนนวิชาใน part มาเฉลี่ยกัน
ให้เกิน 50 คะแนน ก็จะผ่าน

part แรกเป็นวิชา system Analysis กับ Database
อันนี้เก็งไว้มาก น่าจะผ่านเพราะสุ่มเตรียมตัวกันไว้เยอะมาก
ขนาดเปิดบังกะโล กับเพื่อน อ่านกันข้ามคืนเลย

ถัดมา 3-4 วันก็สอบ part 2 Project Management กับ Network
2 วิชานี้ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่ แล้วก้อไม่ค่อยหวังด้วย แต่ก็ทำไป
เต็มที่น่ะ ถ้าไม่ผ่านก็ต้องลงสอบอีก เมษา

แต่ยังงัย ถ้าเกิดคราวนี้ผ่าน 2 part ได้ก็ยื่นเรื่องจบไม่ทันอยู่แล้ว
กว่าจะจบ นู่น มกราฯ ปีหน้า เลยคงได้สอบเมษาอีกแน่น่ะ

ช่วงน้งานเข้าเยอะมากคับ นอกจากเรื่องสอบแล้วก้มี Project IS
แล้วก้อต้องลง Program ที่แถวสยามอีก 9 เครื่อง ไหนจะงานประจำอีก
เฮ้อออ เหนื่อย ...

อ้ออ พักนี้กำลังเห่อเพลง ของ Jason Mraz อยู่ เพราะดี ว่าจะซื้อ DVD คอนเสริ์ทมาดู




Life Is Wonderful - Jason Mraz

4/11/52

เทคนิคการใช้ awk


สลับ column ที่ 6 กับ 10

$ awk ‘BEGIN {FS=OFS=”|”} {temp=$6; $6=$10; $10=temp} {print}’ file

กำหนด sperator
awk -F, '{ print $2 }' D_20090724.OK |more

In AWK, one can use regular expressions to trim:

ltrim(v) = gsub(/^[ \t]+/, "", v)
rtrim(v) = gsub(/[ \t]+$/, "", v)
trim(v) = ltrim(v); rtrim(v)

or:

function ltrim(s) { sub(/^[ \t]+/, "", s); return s }
function rtrim(s) { sub(/[ \t]+$/, "", s); return s }
function trim(s) { return rtrim(ltrim(s)); }
===============================
การใช้ egrep
egrep -i  6568206068 | 6562422435 SNG_0911_ID.out.u

3/11/52

เทคนิคการใช้ sed

รวมเทคนิคการใช้คำสั่ง sed ครับ
-----------------------
การแทนคำ
ถ้าเราจะ
แทนคำ foo เป็น bar ตัวแรกที่เจอในบรรทัด
$ sed -e 's/foo/bar/' myfile.txt

ถ้าเราจะ
แทนคำ foo เป็น bar ทุกตัวในบรรทัดเดียวกัน
$ sed -e 's/foo/bar/g' myfile.txt

ถ้าเราต้องการ
แทนคำ enchantment เป็น entrapment ทุกตัวในบรรทัดเดียวกัน ตั้งแต่บรรทัดที่ 1-10
$ sed -e '1,10s/enchantment/entrapment/g' myfile.txt

ถ้าเราจะ
จะสลับคำว่า 'hills' กับคำว่า 'mountains' เฉพาะ text ที่เริ่มต้นด้วย blank และ
สิ้นสุดด้วยคำที่เริ่มต้น 'END'

$ sed -e '/^$/,/^END/s/hills/mountains/g' myfile.txt

ในตัวอย่างก่อนหน้าเราจะใช้ '/' เป็นตัวแบ่ง option แต่ถ้าใน argument เรามี '/' อยู่ เราต้อง
เปลี่ยน '/' ใหม่ เป็น ':' โดยกำหนดไว้หลัง 's'

$ sed -e 's:/url/local:/usr:g' myfile.txt

ถ้าเราจะค้นหาคำที่เริ่มด้วย '<' สิ้นสุดด้วย '>' และมีตัวอักษรอยู่ข้างใน คำเหล่านี้จะถูกลบทิ้ง จะใช้แบบนี้
$ sed -e 's/<.*>//g' myfile.txt

ในบบแรกเราต้องการลบแท็คของ html ออกให้เหลือแต่ประโยคข้างใน เช่น
This is what I meant
แต่เรากลับได้ แบบนี้แทน
meant
ซึ่งไม่ใช่ที่เราต้องการ เพราะเราต้องการแบบนี้
This is what I menat
เราจะใช้แบบนี้คับ
$ sed -e 's/<[^>]*>//g' myfile.txt


-----------------------

10/10/52

แมงเม่าผู้โง่เขลา

ใกล้ก็หวั่นไหว
ห่างก็โหยหา
แมงเม่าผู้โง่เขลา
จึงบินเข้ากองไฟ

เป้ สีน้ำ

พฤษภาคม ๒๕๕๒

19/9/52

เรื่องของน้ำผึ้ง

หลายวันก่อนได้ไปเที่ยวแถวราชบุรีอ้ะคับ แล้วไปได้น้ำผึ่งมา 1 ขวด
คนขาย เค้าว่า เป็นน้ำผึ้งแท้ เก็บมาจากป่า เลยซื้อมา แต่ เอ... แท้จริงหรือเปล่า

วันนี้เลยลองเปิดเวปดูวิธีทดสอบน้ำผึ้ง ได้ความมาว่า...

การตรวจสอบน้ำผึ้งอย่างง่ายๆว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่นั้น สามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ครับ
1.เขย่าขวดดูฟองอากาศและการแยกชั้น โดยน้ำผึ้งแท้จะมีฟองอากาศใหญ่ ลอยตัวเร็ว ไม่เห็นการแยกชั้นของน้ำผึ้ง ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะมีฟองอากาศมาก ลอยตัวช้า มองเห็นการแยกตัวเป็นชั้น (การทดสอบการไม่เข้ากันของน้ำตาล)

2. การหยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชูเพื่อตรวจดูการซึมผ่าน โดยที่น้ำผึ้งแท้นั้นจะซึมผ่านช้ามาก แต่น้ำผึ้งปลอมจะซึมผ่านเร็วหรือทำให้กระดาษทิชชูขาดทะลุเนื่องจากมีปริมาณ ของน้ำเจือปนมาก (การทดสอบการเจือปนปริมาณน้ำในน้ำผึ้งแต่อาจไม่สามารถใช้จำแนกน้ำผึ้งที่ปน แบะแซหรือคาราเมลได้)

3. เอาหัวไม้ขีดไฟมาจุ่มน้ำผึ้ง แล้วนำไปจุดติดไฟที่ข้างกลัก โดยน้ำผึ้งแท้ไม้ขีดนั้นจะสามารถจุดไฟติด ส่วนน้ำผึ้งปลอมจะจุดไฟไม่ติดครับ (การทดสอบการเจือปนปริมาณน้ำในน้ำผึ้งแต่อาจไม่สามารถใช้จำแนกน้ำผึ้งที่ปน แบะแซหรือคาราเมลได้)

4. การเอาน้ำผึ้งหยดลงในแก้วใส่น้ำเย็น โดยน้ำผึ้งแท้จะรวมเป็นก้อนจมลงก้นแก้วและค่อยละลาย ส่วนน้ำผึ้งปลอมเมื่อหยดลงน้ำจะกระจายตัวทันทีเนื่องจากมีการยึดเหนี่ยว ระหว่างโมเลกุลน้อยกว่าน้ำผึ้งแท้ (การทดสอบการเจือปนปริมาณน้ำในน้ำผึ้งแต่อาจไม่สามารถใช้จำแนกน้ำผึ้งที่ปน แบะแซหรือคาราเมลได้)

5. การทิ้งให้ตกผลึก มีหลายท่านเข้าใจผิดว่าน้ำผึ้งแท้นั้นไม่ตกผลึกแต่น้ำผึ้งปลอมตกผลึก แต่ความจริงแล้วทั้งน้ำผึ้งแท้และน้ำผึ้งปลอมตกผลึกครับ แต่รูปแบบของผลึกที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความแตกต่างกัน เช่น น้ำผึ้งแท้จะมีรูปของผลึกเป็นเหลี่ยมเป็นแท่งที่แหลมคม ส่วนผลึกของน้ำผึ้งปลอมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลทรายหรือคาราเมล(น้ำตาลเคี่ยว )จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แต่ต้องดูด้วยกล้องจุลทัศน์จึงจะมองเห็น ส่วนน้ำผึ้งปลอมที่เกิดจากจากแบะแซจะไม่มีการตกผลึกครับ

แต่ว่า มีอีกกระทู้นึง เค้ามีความเห็นแตกต่างน่ะคับ เค้าบอกมาว่า...

เดี๋ยวนี้ วิทยาการ การปลอมน้ำผึ้ง ก้าวหน้าจนคุณไม่สามารถตรวจสอบได้หรอกครับ เพราะ เค้าทำทุกวิถีทาง ตั้งแต่ ไม่ว่า จุ่มทิชชู จุ่มหัวไม้ขีด หรือ เรื่องการไม่กระจายตัวในน้ำ
ผมเป็น คนหนึ่งที่คลุกคลีกับวงการผึ้งเลี้ยง จึงขอบอกตรงนี้เลยว่า น้ำผึ้งที่แท้ที่สุด คือ น้ำผึ้งที่ คนจับหรือ คนเลี้ยง ซื่อสัตย์ ครับ และ มี บุคคลเช่นนี้ อยู่ไม่น้อย สังเกตจากข้างขวด มีตรารับรองของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ เค้าจะสุ่มตรวจคุณภาพน้ำผึ้ง แทนคุณ มาอย่างสม่ำเสมอ
ขอแถมนิดนึง กับความเชื่อที่ผิด ๆ
1 ผึ้งโพรงเลี้ยง มักเป้นน้ำผึ้งปลอม เพราะ เลี้ยงด้วยน้ำตาล อันนี้ ผิดครับ เพราะ เวลาที่ไม่มีน้ำหวาน เค้าจะเลี้ยง อยู่ เจ้านึง ประมาณ 30 รัง พอก่อนที่ น้ำหวานจะหลั่ง สัก 3 เดือน เค้าจะพยายามขยายรังให้ ได้ประชากรผึ้งมาก ๆ จึงต้องอัดน้ำตาลให้ผึ้งฟู(ขยายตัวมาก ๆ ) จาก 30 รัง สามารถทำเป็น 3000 รังได้ในเวลา 3 เดือน แล้ว เค้าจะหยุดให้น้ำตาล แล้ว ให้ผึ้งหาน้ำหวานมาใส่รังแทนครับ น้ำตาลโลละ 14 บาท ถือเป็นต้นทุนนะครับ แต่ น้ำผึ้งจากต้น น่ะ ฟรีนะคุณ
2 น้ำผึ้ง ยิ่งเก็บนาน ยิ่งดี ก็ผิดครับ เพราะ นอกจากอนุมูลน้ำตาลในน้ำผึ้ง ซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับน้ำตาลผลไม้ทั่วไป แล้ว ความมหัสจรรย์ ของน้ำผึ้ง อยู่ที่ น้ำมันหอมระเหย ต่าง ๆ ที่ ซ่อนอยู่ในเกสร(vallatine compound) ซึ่ง สารระเหยเหล่านี้ อายุ ไม่เกินปี ครับ เพราะฉะนั้น น้ำผึ้งที่ดีที่สุดคือ น้ำผึ้งแรกเก็บครับ และจะมีคุณค่าอยู่ไม่เกิน 1 ปี เรื่องนี้ บอกใครไม่มีใครเชื่อ แม้แต่ภรรยาผม ซึ่งชอบหาน้ำผึ้งมาเก็บให้นาน นาน แล้ว จึงเอามาใช้ จนสุดท้าย ได้เรื่อง น้ำผึ้งเก่าเก็บของเธอ 1 ขวด เธอใช้ พอกหน้ามาเรื่อย ๆ จน อายุ เกือบ 2 ปี อยู่มาวันหนึ่ง ก็ เอาออกมาทำอย่างเดิม หน้าเห่อเท่ากาละมังเลยคุณเอ๊ย
น้ำ ผึ้งที่ดี ตกตะกอนได้นะครับ โดยเฉพาะ น้ำผึ้งจากใบยางพารา ที่มีความเหนียวข้นมาก ซึ่ง หากน้ำผึ้งตกผลึก จะเรียกว่า เนยผึ้ง สามารถขายได้ กิโลละ 400 บาท (น้ำผึ้ง ขายส่ง กิโล ละ 75 บาท ครับ) และ เอามาทาขนมปัง อร่อยมาก

อ้อ ปัจจุบัน วิธีที่พอจะสังเกตได้ง่ายและ น่าจะพอทดสอบได้ คือ เอานิ้วชี้ แตะน้ำผึ้ง แล้ว ใช้ นิ้วโป้ง ยี นิ้วชี้ (แบบ จีบ นิ้ว) ยี อยู่ หนึ่งนาที ถ้าไม่เป็นฟอง หรือ ไม่ หนืดขึ้น แน่ใจได้เลยว่า ของแท้ครับ

การปลอมน้ำผึ้ง สามารถทำได้ ดังนี้
1. เวลาไปตัดรัง จะใส่ ต้นกล้วยลงไปด้วยในถัง ความเข้มข้นของน้ำผึ้ง จะทำให้น้ำในต้นกล้วย ไหลกลับออกมา ตามหลัก การดูดคืน pasmolisis ซึ่ง น้ำเลี้ยงในกล้วย ไม่แตกต่างกับน้ำผึ้งครับ แทนที่จะได้น้ำผึ้ง ครึ่งถัง ก็จะได้ น้ำผึ้ง 1 ถัง
2.น้ำผึ้ง จาก จังหวัดขอนแก่น มีน้ำผึ้งตลอดปี และ ผึ้งขนาดเล็ก ที่เรียกว่า มิ้ม นั้น เยอะมาก เป็นน้ำผึ้งแท้ แต่ เป็นน้ำผึ้งไม่ได้คุณภาพ เพราะ ผึ้งเหล่านี้ อยู่ข้างโรงงานน้ำตาล ผึ้งไม่ต้องไปหากินที่ไหนเลยครับ ไปหาน้ำตาลทราบ ซึ้งมีอนุมูล ซูโครส (ไม่ต่างอะไรกับ น้ำเชื่อม) น้ำผึ้งที่ดี ต้องเป็นน้ำหวานจากดอกไม้ ฟรุกโตส ที่มีอนุมูลแซคคาไลด์ เล็กว่า ครับ
นครสวรรค์ แถบบอ.บรรพตพิสัย จะต้มน้ำเชื่อมเลี้ยงผึ้ง แล้ว วันรุ่งขึ้น ก็ไปเก็บผึ้งทั้งรังมาขาย ไม่แตกต่างแต่อย่างใด
น้ำ ผึ้งแท้ ที่ตัดจากป่า ทุกเจ้า จะคั้น น้ำผึ้งออกจากรังด้วยวิธี ใส่ผ้าขาวม้า(ที่เช็ดเหงื่อไปด้วยเวลาปีนไปตัด) แล้ว บีบ ๆ คั้น ๆ ทำให้ ทั้งเหงื่อ ทั้งตัวอ่อน เละเทะปนมากับน้ำผึ้งด้วย น้ำผึ้งจึงเป็นฟอง ใครว่า น้ำผึ้งเผ็นฟอง ที่เรียกกันว่า ขี้ส่า เป็นน้ำผึ้งดี ผมขอเถียงครับ เก็บได้ เดือนเดียวก็เปรี้ยวแล้ว
เพราะฉะนั้น ผมถือว่า ผึ้งโพรงเลี้ยง apis melliflera หรือผึ้งเลี้ยงอีตาเลี่ยน เนน้ำผึ้งที่สะอาดที่สุดครับ เพราะรังที่เก็บน้ำผึ้ง เค้าจะกันไม่ให้นางพญาไปไข่ จึงไม่มีน้ำตัวอ่อนมาผสม และใช้วิธี สลัดออกจากรัง ไม่ได้ ขยำ ขยี้ จึงได้แต่ น้ำผึ้ง แท้
เฮ้อ เหนื่อย จัง แต่ เพราะอยากให้เดข้าใจกันอย่าง แท้จริง และ ช่วยให้ อุตสาหกรรมน้ำผึ้งไท เจริญรุดหน้า ต่อไป

น้ำผึ้ง เรื่องสี ไม่สำคัญ หรอกครับ จะสาธยายให้ฟัง
น้ำผึ้ง ดอกกาแฟ สีน้ำตาล หวานแหลม
น้ำ ผึ้ง ดอกลำไย หวานมาก เหมาะเอาไปชงนม หรือ กาแฟ มากกว่า และ น้ำผึ้งดอกลำไยที่แหละครับ ที่เอาไปผสมในกระทิงแดง ด้วยว่า มีสาร ทอรีน ช่วยกระตุ้นให้ตาส่วาง
น้ำผึ้ง ดอกสาปเสือ สีสวย ที่เรียกว่าสีน้ำผึ้ง นั่นแหละ
น้ำ ผึ้ง ดอกแตงโม สี ใส ขาว เหมือนน้ำฝน เป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุด แต่เก็บยากที่สุด เพราะแตงโมปัจจุบัน ยาฆ่าแมลงเยอะที่สุด ผึ้งน่ะ โดนยาฆ่าแมลง ตัวเดียว มันตายยกรังเลยนะครับ
น้ำผึ้ง ดอกเปล้า แปลกครับ มันขม กินไม่ลงเลยทีเดียว
ซึ่งแตกต่างกับน้ำผึ้งดอกสะเดา หวานเมา กินมาก ตาลายครับ
น้ำผึ้งดอกมะตูม กินแล้ว ถ่ายท้อง
น้ำ ผึ้งใบยางพารา ความชื้นจะสูงกว่า น้ำผึ้งอื่น ตามเกณฑ์ น้ำผึ้งทั่วไป ความชื้นอยู่ที่ 18 % แต่ ใบยาง สามารถขายได้ที่ความชื้น 22 % ราคาเลยถูก แต่ อนุมูลน้ำตาล สูงมาก จนสามารถตกผลึกได้
น้ำผึ้งป่าที่ไม่แยกดอก ระวังให้ถามว่า แถวนั้นมีต้นมะตูม หรือ เปล้าหรือเปล่า เพราะ อาจผิดหวังถ้าได้น้ำผึ้งที่ทานแล้ว ขี้ไหล หรือ น้ำผึ้ง ขม นะครับ
ที่ ร่ายยาวมานี่ แสดงว่า สีของน้ำผึ้ง ไม่มีผลต่อคุณภาพหรอกครับ แต่ ความข้น หากข้นมาก อาจแสดงว่าเก่าเก็บหรือ มีน้ำแบะแซ ผสม ครับ แต่ก็ไม่ควรนใสเกินไป เวชพงษ์ และดอยคำ ล้วนแต่เป็นน้ำผึ้งเลี้ยง ซึ่ง ไว้ใจได้ครับ ส่วนจะหาซื้อที่ไหนจึงจะดี น่ะเหรอ กรุงเทพคงให้เครดิต อตก.
ส่วนต่างจังหวัด ก็ ยกเครดิตให้ เกษตรอำเภอที่จะมีเคหกิจเกษตรอยู่ บอกให้เขาติดต่อเอาน้ำผึ้งที่กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงผึ้งออกจำหน่าย
กลุ่ม เกษตรกรเหล้านี้ มักอยู่จังหวัดลำพูน เชียงใหม่ หรือ ชุมพร สุราษฎร์ธานี(กลุ่มเกษตรควนรัษฎา ท่าฉาง คุณภาพดีที่สุด) อ.ฉวาง จันดี นครศรีธรรมราช ครับ ซื้อจากกลุ่ม จะได้ขวดละไม่เกิน 120 บาท ทั่วไป จะอยู่ประมาณ 150 บาท/ขวด แต่ถ้าจะซื้อเป็น ตัน(ถังสองร้อยลิตร) จะตกกิโลละ 75 บาท ครับ
ภาคอีสาน กำลังปล้ำเกิดกลุ่มเหล่านี้อยู่ แต่ท่าทางจะยาก เพราะ ยาฆ่าแมลง อุดมสมบูรณ์เหลือเกิน
แต่ ถ้าเค้าบอกว่า น้ำผึ้งขอนแก่น หรือ นครสวรรค์ ล่ะก็ เลี่ยงให้ห่าง ๆ นะครับ โดยเฉพาะ น้ำผึ้งกุมภวาปี และ น้ำพอง เพราะคุณจะได้ น้ำผึ้งโรงงานน้ำตาล
นครสวรรค์ก็ ยังไม่น่าไว้วางใจ จันทบุรีก็ถ้าอยู่แถบเขาคิชกุฏ ยังพอหากินน้ำผึ้งรวงในป่าได้ และคนตีผึ้ง ซื่อสัตย์พอสมควร ครับ โอกาสได้น้ำผึ้งแท้ 80% ส่วนจังหวัดอื่น 50-50 ครับ


ทั้งหมดจะจริงเท็จอย่างไร ลองเอาไปทำดูน่ะครับ

ว่าแล้วก็ลองกันเลย



นี่คับ ขวดที่ซื้อมา























ทดลองหยดลงใน
แก้วน้ำเย็นครับ
สังเกตว่า น้ำผึ่งจะจับ
เป็นก้อน แม้ตอน
ที่ลงไปก้นแก้วแล้ว
ก็ยังเป็นก้อนครับ





















น้ำผึ้งที่ก้นแก้วครับ ดูว่ายังนอนก้น ไม่ละลายไปกับน้ำ


ทดลองหยดลงบนกระดาษแล้ว สังเกตดู น้ำผึ้งไม่ซึมลงกระดาษทันทีครับ
ยังจับเป็นก้อนครู่นึง แล้วจึงซึมลงกระดาษไปครับ









ทดลองเขย่าขวดดู
ฟองอากาศยังลอง
อยู่นานมากครับ
หลายนาทีเลย












สรุปแล้วอนุมาณแบบเข้าข้างตัวเอง โดยอาศัยทฤษฎีข้างต้นมาอ้าง
ได้ว่า น้ำผึ้งที่ซื้อมาแท้ครับ .. อิอิ

9/9/52

พุธที่ ๙ เดือน ๙ ปี ๒๕๕๒

วันนี้เค้าว่าเป็นวันดี มีแต่เลข ๙ ถือว่าเป็นเลขมงคล
เป็นวันที่เราควรทำแต่สิ่งดีดี แต่... เฮ้อออ

ไหง วันนี้มันเหมือนทุกๆ วันนะ

งานที่ทำงาน ไม่เสร็จสักอย่าง ตรวจสอบข้อมูลก็ยังค้างอยู่
ไมมันเยอะจัง...

วันนี้เเข้าม. เอางานไปรายงานอ. ก็อธิบายเรื่องที่ติดอยู่
ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วก็เล่าความฝันถึงงานที่วาดไว้
ว่าจะทำให้ได้แบบนี้ แต่ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า
เพื่อนๆ ก็ทำไปกนเยอะแล้ว
จะจบมั้ยเนี่ยยย

วันนี้นั่งรอเอาเอกสารให้เพื่อน เพื่อนอีกคนฝากไว้
หลังจากคุบกับ อ. เสร็จก็ลงมานั่งรอ ...
เราก็นึกว่าเค้าเรียน รอจน สองทุ่ม โทรไปก็ไม่รับสาย
จนสุดท้ายก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้ามา
ปลายสายพูดด้วยอาการงัวเงีย พร้อมกับตอบคำถามที่
ถราว่า อยู่แถวไหนเนี่ย ...
ปลายสายบอกว่า อยู่ห้อง เพิ่งตื่น เมื่อกี้ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้

อ้าวว แล้วตรู มานั่งรอเกลืออะไรที่นี่เนี่ย ... ในใจก็คิดนะ
จะไม่มาก็น่าจะโทรมาบอกสักนิด ไม่เห็นจะยากไรเลย

ก็เลยต้องขับรถไปหาที่ห้อง เอางานไปให้
งานก็ไม่ใช่ของเรา แต่ก็ต้องทำ .. มันไม่ลำบากไรหรอก
แต่ถ้าโทรมาบอกกันสักนิด ก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอตั้งหลายขั่วโมง

เฮ้อออ ไม่อนากพูดให้เสียใจกัน เพราะวันนี้เป็นวันดี
วันที่มีแต่เลข ๙๙๙๙๙

3/9/52

พรุ่งนี้ไม่สาย

อดทนเก็บความในใจ แล้วรอแค่วันเวลา
ให้มันหมุนช้าๆแล้วเดินไปกับมัน

อดทนเก็บความในใจ แล้วเรียนรู้กันและกัน
เพื่อให้เรามีความมั่นใจ
ว่าเรานั้นมีความลึกซึ้งเพียงใด พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน

1/9/52

..nOtHInG..

หากว่าวันนี้คุณเหนื่อยกับคำว่ารัก ก็ไม่เป็นไร
หากการใช้ชีวิต ที่หยุดพักกับความรัก จะทำให้คุณมีความสุข
......

ผมยังรออยู่เสมอ ... แม้ว่ามันอาจไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับคุณ

ชีวิตผมยังคงอยู่ได้ จากความทรงจำที่เคยมีอยู่
สุ้มเสียงของคุณ ที่เคยถามหา และบอกคิดถึงกัน

ผมเปิดมันขึ้นมา ทุกครั้งที่คิดถึงคุณ

ทุกวัน ทุกเวลา ที่เราเคยอยู่ด้วยกัน
ณ. เวลานั้น ณ. เวลานี้
ผมดึงทุกห้วงความรู้สึกของเวลาเหล่านั้น เอามาใส่ในเวลานี้
ตอนที่คุณไม่อยู่ ... แต่ความรู้สึกเหล่านี้ ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าคุณอยู่ ณ.ที่นี้

คุณได้ยินไหม...
เสียงที่ผมบอกคิดถึงคุณ ที่มันซ่อนอยู่ในทุกคำพูด ในทุกสิ่งของ ที่ผมให้
เอี้ยวหูฟังดูสิ .. เสียงนี้ดังก้องอยู่ตลอดเวลา คุณได้ยินหรือเปล่า

กลับมานะ .. หากคุณหายเหนื่อยแล้ว...
ผมยังรออยู่เสมอ..

ภาพถ่ายที่สวยงาม

วันนี้ไม่รู้ว่าตะคุยเรื่องอะไรดี บังเอิญเช้าไปเวปนึงมีกระทู้เกี่ยวกับเรื่องภาพถ่ายที่สวยงามอยู่
ว่าจะเขียนตอบในกระทู้นั้นบ้าง แต่พักนี้มุมมองผมไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเท่าไหร่
เขียนไปสงสัย คงมีไปเคืองสมาชิกในกระทู้นั้นแน่ เลยมาเขียนในบ้านเราดีกว่า

คุณเคยถ่ายรูปกันมั้ยครับ .. ผมเองเพิ่งชอบถ่ายรูปมาไม่นานมานี้เอง
ไม่ได้เรียนอะไร ไม่ได้จบนิเทศศาสตร์ ไม่ได้เคยเข้าชมรมถ่ายภาพที่ไหน
ก็อาศัยถ่ายไป ดีมั่ง เสียมั่ง สวยมั่ง ไม่สวยมั้ง

มีหลายคนถามผมอยู่เหมือนกัน ว่าถ่ายภาพมายังงัยถึงจะสวยเหมือนคนอื่นเค้า
ผมเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงหรอกครับ เพราะเราเองก็ไม่มีวิชาการด้านนี้
ก็บุ้ยใบ้ไปว่า ลองดูองค์ประกอบภาพ สร้างจุดตัด 9 จุด เอาวัตถุที่เป็น subject มาวาง
จุดตัด แล้วปรับกล้องให้เหมาะกับสภาพแสง แล้ว ถ่าย ... หัดๆ ถ่ายเยอะๆ เดี๋ยวก็สวยเอง

เคยดูรูปถ่ายสวยๆ อยู่หลายรูป แล้วก็มาคิดว่า เอ.. ทำไมรูปนี้สวยจัง เช่น


คุณว่ารูปนี้สวยตรงไหนครับ
ถ้าเอาองค์ประกอบรูปถือว่า
ผมว่ารูปนี้องประกอบดีนะ
ส่วนแสงก็ OK
ภาพนี้มีดอกไม้ที่หูของ
นางแบบทำให้ภาพเด่นขึ้นมา





แล้วภาพนี้ล่ะครับ


ดูดุไปภาพนี้คุณว่าเป็นไงครับ
ต้นไม้รกเนอะ คนเดินกอดกัน
นางแบบหุ้นก็ไม่สวยเท่าไหร่
background ก็ทึมๆ
แต่ผมว่าภาพนี้ให้อารมณ์นะ







ภาพหลายๆภาพ สำคัญที่สุดนอกจากองค์ประกอบของรูป การให้แสงและการควบคุมสีแล้ว
ก็คืออารมณ์ของภาพ สิ่งนี้ทำได้ไม่ยากสำหรับทุกคน คุณก็สามารถทำได้ ถ้าคุณรู้สึกมีอารมณ์
ร่วมกับเหตุการณ์ในขณะถ่ายภาพ แล้วที่สำคัญสิ่งนี้มันปรับแต่งด้วย Photoshop ไม่ได้ครับ
ลองดูภาพเหล่านี้กัน



















































รูปเหล่านี้ได้มาจากเวป http://www.onelovephoto.typepad.com/
เป็นเวปที่รับถ่ายภาพแต่งงานครับ ภาพเค้าสวยดี

ลองมาดูภาพผมมั่งนะ































รูปน้องๆ พวกนี้ได้มาตอนไปเที่ยวปางอุ๋งครับ
น้องๆ เค้าชอบถ่ายรูปกัน กลับมาดูทีไรก็อมยิ้มทุกที

ทีนี้ อย่าลืมนะครับ คราวต่อไป หากจะถ่ายรูปแล้วล่ะก็ใส่อารมณ์ของภาพลงไปด้วยนะครับ
ฝากรูปส่งท้ายครับ



30/8/52

วันที่สุดแสนจะน่าเบื่อ

เริ่มต้นเช้าวันอาทิตย์ ด้วยการถูกปลุกขึ้นมาจากเสียงฟ้าร้อง
ตอนแรกนึกว่าเป็นเสียงแม่นะเนี่ย ..
แล้วจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝนตกลงมาชุดใหญ่
ลืมตามองออกไปข้างนอก โอ้ แม่เจ้า ฝนมามืดเลย
ไม่เคยเห็นเช้าวันไหนที่มืดครึ้มเท่าวันนี้

จากการที่ฝนตกแต่เช้า และมืดไปตลอดวัน
เลยส่งผลให้เกิดอาการเบื่อสุดๆ
ไม่อยากทำอะไรเลย แม้แต่การนอนเซ็ง

โปรเจคน่ะไม่กระเตื้องเลยสักนิด จะออกไปไหน
มองออกไปเจอฟ้ามืดครึ้ม ก็เปลี่ยนใจ อยู่บ้านดีกว่า

สุดท้าย วันที่แสนน่าเบื่อวันนี้ก็ถูกปิดลงด้วยฝนที่ตกกระหน่ำ
ปิดท้ายวันอาทิตย์ ...

เฮ้อออ เบื่อ ...

3/8/52

สุขสันต์วันเกิดนะครับ

หรือเพราะผมยังติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ เรื่องเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปร
แล้วคุณเริ่มเปลี่ยนไป

เหมือนผมจะรับรู้ได้ จากความรู้สึก

ผมยังจำวันที่คุณรู้สึกว้าเหว่ เสียใจ ที่สุดได้
คำพูดที่คุณได้เคยบอกกับใครก็ตามเกียวกับความรักที่มีต่อผม
ที่มันจะไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าจะมีใครคนใดเข้ามาในชีวิต
แม้ว่าเค้าคนนั้น จะดี ขนาดไหน เพียงใดก็ตาม

คุณ ก็จะยังคง .. มีผมอยู่ในหัวใจ เพียงเท่านั้น .. ตลอดไป

ผมยังจำได้ถึงความห่วงใยที่เคยมีให้กันในครั้งก่อน
ที่คุณจะโทรมาถามผมทุกเวลา ในตอนที่ไม่สบาย
หรือยามที่เราไม่ได้เจอกันนานเกิน 1 วัน

แต่ในวันนี้ .... วันที่คุณก็รู้ว่าผมป่วยมากขนาดไหน
แต่ก็ไม่มีแม้คำห่วงหา...

ผมยังติดอยู่กับความหลังอยู่ใช่ไหม ...
คุณอยากให้ผมลืมมันไปหรือเปล่า

หลายสิ่งในตัวคุณ .. มันเปลี่ยนไปแล้วหรือ..
คุณถามผมว่า ฉันดูเปลี่ยนไปไหม จากแต่ก่อน
ผมตอบว่า ไม่ ... ไม่เลย .. แล้วก็ยิ้ม
คุณถามต่อว่า ไม่อย่างนั้นเหรอ เหมือนเดิมเลยเหรอ ตลกแล้ว...

ไม่หรอก .. คุณไม่เปลี่ยนแปลงไปหรอก คุณยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
เหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่ผมได้เห็นคุณ
คุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่ แววตา รอยยิ้ม ยังเหมือนเดิม
เหมือนกับที่ผม memory ไว้ในหัวใจตั้งแต่วันแรกนั้น ไม่มีเปลี่ยนแปลง

แล้ววันนี้ สำหรับผม ในความทรงจำของคุณล่ะ มันเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน
ช่วยบอกผมได้หรือเปล่า ...
ขอให้ผมได้รับรู้เถอะ เพื่อว่าผมจะได้ทำตัวได้ถูก เมื่อระหว่างอยู่กับคุณ

ผมยังรักคุณนะ .. รักอยู่เสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง
กับคำถามที่คุณเคยถามผมเสมอ ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ผมตอบว่ามาก
แต่คำว่ามาก คุณอาจจะจินตนาการไม่ออกว่าขนาดไหน

แต่ในตอนนี้ ผมอยากให้คุณได้เห็นมัน ... กับเรื่องราวที่เกิดระหว่างเรา
กับทุกสิ่งที่ผ่านมา

สุขสันต์วันเกิดนะครับ ...
ผมขอให้คุณได้มีความสุข ..
ผมดีใจที่ปีนี้ยังได้มีโอกาสมอบของขวัญให้ด้วยมือตัวเอง
ได้เห็นรอยยิ้มจากคุณ ได้รู้ว่าคุณยังชอบของที่ผมมอบให้
ผมดีใจนะ ที่วันนี้เห็นคุณมีความสุขกับชีวิต ที่คุณเคยเสียใจกับมัน
มีความสุขกับบ้านใหม่ของคุณ ที่คุณเคยบอกผมว่ามันไม่มีความสุขเลย
คุณคงพูดถูกนะ ว่าทุกอย่าง ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
ผมดีใจ ที่วันนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลง ทำให้คุณมีความสุข แม้ว่า วันนี้จะมีผม
ที่อยู่ห่างไกลคุณไป เรื่อยๆ เรื่อยๆ

ผมยังมีคุณอยู่นะ .. มีคุณอยู่เต็มหัวใจ ยังมีคุณอยู่ในความฝัน
ยังมีคุณอยู่ในทุกวัน ที่ผมทำงาน ที่ผมเหนื่อย ที่ผมท้อ ..
ผมกรอเสียงคุณที่อยู่ในความทรงจำ กลับมาเพื่อเป็นกำลังใจ
ในวันที่ผมหมดแรง ...

ไม่มีใครแทนคุณได้นะ .. ไม่ว่าจะใคร ไม่ว่าจะวันไหน ไม่ว่าจะความรู้สึกใด

ฝันดีนะ

One Thousand Word















เคยสงสัยอยู่ เวลามองดูคนเดินจูงมือกัน
เห็นคนที่รักกันแล้วแต่งงานกัน ว่า...
ทำไม..
ทำไมต้องคนนี้ . คนที่อยู่ข้างๆ นี่ คนที่เดินจูงมือกัน
ทำไมไม่เป็นคนนู้น .. ที่ดูดีกว่า
หรือคนนั้น ที่หุ่นดีกว่า
หรือคน นู้นนนน ที่ ...

ทำไมต้องคนนี้ ...
หรืออย่าที่เค้าว่า คนที่รักกัน เพราะมีกรรมมาด้วยกัน...
เลยต้องมาอยู่เพื่อชดใช้กรรม กัน ... เท่านั้นเหรอ...

การที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยกัน สุขด้วยกัน ทุกข์ด้วยกัน
ลำบากด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ทะเลาะใส่กัน...

มันไม่ใช่ว่าจะเป็นกรรมอย่างเดียว...
เพราะอะไร ...

แต่ละช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน มันมีความหมาย มันมีความห่วงใย
มันมีความรักที่ฝังลง ในทุกวินาที ที่ผ่านไป ...

ถ้ามีสมุดที่จะบันทึกทุกเวลา ทุกความรู้สึก ทุกระดับของความรักที่สองคนมองให้กัน
ในแต่ละวินาทีที่ผ่านไป คงไม่มีสมุดเล่มไหนในโลกใบนี้จะบันทึกได้หมด

แต่ถ้าหากบันทึกหมด คงไม่มีใครที่จะมานั่งอ่านได้หมดแน่

ดังนั้นแล้ว ทำไม .. ถึงต้องคนนี้ ไม่ใช่คนนั้น ไม่ใช่คนอื่น
เพราะแต่ละคน จะบันทึกความรู้สึกที่ดีต่อกัน ด้วยกันได้อย่างลงตัวคงเป็นไปไม่ได้กับทุกคน

คงต้องมีเฉพาะคนนี้เท่านั้น ที่จะตอบรับกับความรู้สึกที่อีกคนมีให้ ..
แม้ว่าจะไม่ต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่ด้วยสื่อที่ออกจากใจ ผ่านทางสายตา
ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ กับทั้งหมด..

ที่คนนู้น คนนั้น หรือคนไหน ก็ไม่เข้าใจได้

หรือเพราะแบบนี้ จึงมีคนที่บอกว่า สองคนนี้เกิดมาเพื่อกันและกัน
เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน เป็นหัวใจดวงเดียวกัน ที่ตามหาจนเจอ ...

อืมมม... ก็คงเป็นแบบนั้น...
เพราะแบบนี้ คนเราจึงได้มีงานแต่งงานขึ้นมา งานที่จะบอกให้คนทั่วไปที่ยังไม่เข้าใจถึงความรัก ได้รับรู้..
ได้มองเห็นถึงพลังของความรักที่สองคนนั้นมีให้กัน ..
ให้คนที่รู้จักได้ยินดีกับความรัก ที่คนสองคนมีให้กัน ...

^ ^ วันนี้ หวานมั้ยคับ อิอิ
.....................................................................................................................................
ps. รูปภาพได้มาจากเวปนี้ครับ รูปสวยดี .. อยากให้เข้าไปชมกัน คลิก

38.7 องศา

วันนี้ป่วยคับ ได้นอนสบายอยู่บ้าน เอ.. ก้อไม่สบายนะ ...
เมื่อวานรู้สึกไม่ค่อยสบาย ตั้งแต่ตื่นตอนเช้าแล้วล่ะ สายๆ เลยแวะไป รพ.
ระหว่างรอหนึ่งแต่งตัวเสร็จ เพราะวันนี้นัดกันว่าจะไปทำบุญ

ระหว่างรอหมอก้อวัดความดัน กับอุณหภูมิ ปรากฏว่าขึ้นมา 38.73 องศา
เหอะๆๆ ก้อรู้สึกอ้ะนะว่าตัวร้อน มีไข้ แต่ไม่รู้หรอกว่าเท่าไหร่ วัดออกมา ก้อตกใจนิดหน่อย
เลยได้ผ้าปิดปาก รอหมอตรวจ ก้อ ดีใจอ้ะ ที่หมอว่าไม่เป็น 2009 ไม่งั้นได้ admit แน่เรย
เลยได้ยาไปกิน กลับบ้านได้

ก้อไปรับหนึ่งต่อไปทำบุญที่บ้านปากเกร็ด แวะซื้อของกันที่คาร์ฟู แถวปากเกร็ด ก้อซื้อ
นมผงสำหรับเด็กอ่อน โหห แพงจิง กระป๋องละเกือบพัน .. แพงกว่าไปกินสุกกี้อีก ... เหอะๆๆ
ก้อได้นมผฝมา แล้อก้อผ้าอ้อม นม uht อีกลัง กระดาษทิษชู่ อีก

ช่วงนี้เค้าไม่ให้เราเข้าไปเลี้ยงเด็กข้างในนะคับ เพราะเค้ากันไว้ กลัวเด็กติดหวัด 2009
เลยได้แค่ยืนมองลิบๆ แล้วก้อไปตลาดต่อซื้อปลามาปล่อยกัน ซื้อที่ตลาดปากเก็ด
มาปล่อยที่วัดมะขาม อ้ออ วันที่ 8-9 สค. นี้ที่วัดมะขามมีงานแข่งเรือประจำปี
ชิงถ้วยพระราชทานนะครีบ ใครสนใจไปชมกันได้ งานบ้านๆ สนุกสาน ดี น่าชมครับ

วันนั้นก้อเท่านั้หล่ะ หมดแรง ไข้ขึ้นหนัก กลับถึงบ้านนอนซมเรย แต่ตอนนี้ดีแล้วล่ะคับ
กลับมาเชียนลอ๊อคได้แระ

แต่เด็วจะเริ่มทำโปรเจคต่อ เด๋วไม่มีส่งอาจารย์
ไปก่อนคับ

23/7/52

อีเมล์ผิด

อีเมล์ผิด

เรื่องมีอยู่ว่า ชายคนหนึ่งเพิ่งจะเข้าพักในโรงแรม
เค้าเห็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งอยู่ในห้อง
จึงตัดสินใจส่ง e-mail ให้กับภรรยา แต่เขาดันพิมพ์
e-mail address ของภรรยาผิดไป
และได้ทำการส่ง e-mail นั้นไปโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไรเลย!

ในขณะนั้น...ณ. ที่แห่งหนึ่งในฮัสตัน
แม่ม่ายคนหนึ่งเพิ่งจะกลับจากพิธีฝังศพสามี
เธอตัดสินใจเข้าไปตรวจดู e-mail
โดยหวังว่าจะมีข้อความแสดงความเสียใจจากญาติๆ
และเพื่อนฝูงส่งมาให้กำลังใจ
หลังจากเธอได้อ่านข้อความแรกจบลง เธอก็หมดสติ ล้มลงทันที
ลูกชายของเธอก็วิ่งเข้ามาในห้อง เห็นแม่นอนนิ่ง ตาค้างอยู่ที่พื้น
โดยได้จ้องมองไปที่จอคอมพิวเตอร์
ลูกชายได้เห็นข้อความเขียนไว้ว่า

To : ภรรยาที่รักของผม
Subject : ผมถึงเรียบร้อยแล้วน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง!
Date : 09 พ.ค 2007

ผมรู้ว่า คุณจะต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้รับข่าวนี้
ที่นี่มีคอมพิวเตอร์ด้วยล่ะ! และพวกเราก็ได้รับอนุญาตให้ส่ง e-mail
ถึงคนที่เรารักได้หนึ่งคน ผมเพิ่งจะมาถึง และ Checked in เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้วเพื่อรอต้อนรับ
คุณที่จะมาถึงในวัน พรุ่งนี้..........................?


รัก...คิดถึงเสมอ....รีบมาล่ะ.....พวกเรารออยู่น่ะ

ปล. ถ้าให้ผมรอคุณนาน คุณยังไม่มาหาผมสักที คืนนี้ผมจะไปรับคุณเองล่ะนะ ที่รัก !!!!!!!!!!!!

***********************

เพื่อนส่ง mail นี้มา ในวันนี้คับ เคยได้รับมาหลายครั้งแล้วล่ะ
แต่ว่าอ่านอีกกี่ทีก้อยังขำอยู่

19/7/52

ผมและเธอบนทางเส้นขนาน

ผมและเธอบนทางเส้นขนาน
- ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว ผูกอย่างไรก็มีปม
- เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า
แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่
- ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย
GSM
- เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย GSMใช้

- ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า จะยี่ห้ออะไรก็ปิดไอ้นั่นได้มิดเหมือนกัน
- เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย ถ้าเกิดไฟไหม้
กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ
- ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่
ผมว่าขนมครก อร่อย! และถูกกว่าเป็นไหน ๆ
- เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระห?่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่
เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อย แต่พิซซ่าฮัท ทุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน
- ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้ และมันมักจะหายไป
ทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
- เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้
และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ

- ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัด
กับระบบ
- บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน เพราะงานทำให้เธอมีระบบ
ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต
- ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ
มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
- เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าไม่มีพวกเขา ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง
- คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง
แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร ทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
- คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร คลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง
- ผมบอกว่าถ้าไม่มี 'ความว่าง' แล้ว 'ความมี' ก็ไร้ความหมาย เพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง
- เธอบอกว่าถ้าไม่มี 'ความมี' แล้ว 'ความว่าง' จะมีประโยชน์อะไร มันคงไร้ความหมายเพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบ
- คนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 0-100 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 100-0 ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่ ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0
- เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100 แต่เป็นจาก 100-200
หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา
- ผมมองคนที่ความคิด
- เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย

ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ

ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน

แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอชอบกินไข่แดง
แต่ผมชอบกินไข่ขาว


เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้

ความรัก กับ ความผูกพันธ์

เนื้อความ ความรัก..กับ ความผูกพัน
หน้าตาคล้ายกัน .. เหมือนซ้าย-ขวา
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ ..
รู้สึกว่า . คิดถึง .. แล้วมาหา คือ .............. รัก
รู้สึกว่า .. เคยมาหา .. เลยมาหา คือ . ผูกพัน
รู้สึกว่า .. หิว .. แต่อยากรอ คือ .. รัก
รู้สึกว่า .. อิ่มแล้ว .. อยากเอามาฝาก คือ .. ผูกพัน
รู้สึกว่า .. อยากให้เวลากันและกัน คือ .............. รัก
รู้สึกว่า .. อยากใช้เวลา ด้วยกัน คือ .. ผูกพัน
รู้สึกว่า .. หงุดหงิดคือทำให้อีกคนไม่สบายใจ คือ .. รัก
รู้สึกว่า . โกรธคือทำให้อีกคนสำนึกบ้าง คือ .. ผูกพัน
รู้สึกว่ า .... ไม่มีนาทีไหนไม่คิดถึง คือ .. รัก
รู้สึกว่า .. นาทีไหนที่ว่างจะคิดถึง คือ .... ผูกพัน
ขอบคุณเหลือเกิน .... ความผูกพัน .. ที่ทำให้รัก
ขอบคุณเหลือเกิน .. รักที่เป็นมากกว่า .. ความผูกพัน
-----------------------------------------------------------
........... เคยไหมรักใครคนหนึ่ง ด้วยความรู้สึกว่า ....
เคยผูกพันเหมือนเคยรักกัน แล้วพลัดพราก
ต้องมาตามหากันเป็นแรมปี
ถ้าเคยรู้สึกอย่างนี้
ยามที่มองแววตาใครคนนั้น
แล้วรู้สึกอยากอยู่ข้าง ๆ
เพื่อคอยกางแขนปกป้องและดูแลไปตลอดชีวิต
ความรู้สึกนั้น .. เรียกว่า รักและผูกพัน
ความรู้สึกที่ .. มิอาจพรากจากกัน ได้อีก
แม้เพียงหนึ่งเสี้ยววินาที

24/4/52

ในที่สุด...




ไม่ได้เขียนบล็อคมานานนนน มากเลย
คืนนี้ไม่รู้เป็นไง ปัดฝุ่นตัวเองสักหน่อย

ในที่สุดวันนี้ก็ปิดเรื่องทักท้วงไปได้เรื่องนึงจนได้
ของ USA ความจริงเราก็หามาจากข้อมูลดิบเนี่ยนะ
ดูข้อมูลละเอียดแล้ว เอา numbering plan เท่าที่มี
มาแยกปลายทาง แล้วคัดเอาที่ถุกต้องที่สุด

แต่ว่ายอดที่ออกมากลับเกินกว่าที่เคยหาไปได้เยอะเลย
หกหมื่นกว่านาที ส่งเรื่องไปให้หัวหน้า approve
แต่ไม่ผ่าน ทำมาแทบตาย วันหยุดก็ไม่ได้หยุดเลย
ได้ตัวเลขมาก็กลับใช้ไม่ได้ คงเป็นเพราะข้อมูลที่ได้
มันตรงเกินไป มันถูกต้องเกินไปมั้ง แต่ที่เซ็งน่ะไม่ใช่เพราะ
เรื่องตัวเลขหรอก แต่เป็นที่หัวหน้า comment ต่างหาก
ไอ้เราก็ทำมาเต็มที่แล้ว กลับถามว่าเราทำอะไรอยู่ มัวทำอะไร
ทำไมทำช้า ก็มันงานตรวจสอบนี่ครับ จะให้เร็วเป็น
ต้มมาม่า หรือเซ็นเช็คได้ไง มันก็ต้องตรวจสอบสิ
ว่าผิดตรงไหน ทำไมมันไม่ตรง ทำไมมันไม่ถูก ไอ้ที่ผิดมันตรงไหน
แล้วแก้ยังงัย อธิบายไปหลายรอบและ เบื่อ... วันนี้เลยไม่พูดอะไร
ยิ้มๆๆ พยักหน้า ประมาณว่าเออ พี่ พี่จะเอาไงกับชีวิตผมก็ว่ามาล่ะกัน
ผมชี้เกียจคิดแระ ..
สุดท้ายหัวหน้าก็ให้เอา numbering plan ที่พี่เค้ามาลองมาให้ตรวจดู
(เออ แล้วทำไมไม่เอามาให้ตู ตั้งแต่แรกฟะ ให้ตรู งมหาตั้งนาน
แล้วมาหาว่าตรูทำช้า) ก้อเลยเอามาตรวจเช็ค คราวนี้กันพลาดล่ะ
เลยเอาข้อมูลทั้งที่เคยเอาไป run แล้วเอามาตรวจด้วย
เทียบกับเอาข้อมูลที่มีบาง B.No ที่ผิด ที่ยังไม่ได้แก้เอามาตรวจ เทียบ
เข้าไปอีกกับข้อมูลที่แก้แล้ว ...

คราวนี้ได้มา 3 ยอดเลย ก็ต่างกันนิดหน่อย เมื่อเทียบกับ numbering plan
ที่เราเคยใช้ แต่ยอดข้อมูลที่ B.No ผิด กลับใกล้เคียงกว่า
หัวหน้าเลยเลือกเอาอันนั้นไปตอบเรื่อง เออ... ตรู
กำ
ข้อมูลที่ถูก ไม่เอาไปตอบ ... เราทำถูกมา กลับใช้ไม่ได้ซะงั้น
ข้อมูลที่ผิดกลับใช้ได้ .. เช. เลยยย จับทางได้แระ
คราวหน้าคงต้องเล่นมุขนี้ล่ะเรา

เป็นคนดี ทำถูกต้อง กลับใช้ไม่ได้ นะ ..

เด็กๆที่อ่านอย่าเอาไปทำเป็นตัวอย่างนะคับ
อันนี้ไช้ได้เฉพาะบางเหตุการณ์

กลับมาก็เริ่มเรื่องที่ต้องบ่นเลย
ไว้แล้วจะเขียนเรื่องดีดีมาให้อ่านบ้างล่ะกัน
ถ้ามี รมณ์ นะ... แต่พักนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
อ้ะ ...

17/4/52

กรุณาฝากข้อความไว้ ฉันจะติดต่อกลับโดยเร็ว

ฉันโทรศัพท์จากกลางป่า.. หาเธอที่อยู่ในเมือง...

เครื่องฝากรับข้อความบอกกลับมาว่า "กรุณาฝากข้อความ ฉันจะติดต่อกลับทันทีที่ทำได้"


"..เธอได้ยินเสียงลมพัดผ่านไปไหม
เธอได้ยินเสียงใบไม้ร่วงไหม
เธอได้ยินเสียงลมหายใจของขุนเขาไหม

และเสียงหัวใจที่เต้นอย่างลิงโลดของฉันล่ะ เธอได้ยินไหม

โปรดติดต่อกลับพวกมันโดยด่วนนะ สวัสดี.."

....