30/4/51
What am I to you?
Tell me darlin' true
To me you are the sea
Vast as you can be
And deep the shade of blue
When you're feelin' low
To whom else do you go?
I'd cry if you hurt
I'd give you my last shirt
Because I love you so
Now if my sky should fall
Would you even call?
I've opened up my heart
I never want to part
I'm givin' you the ball
When I look in your eyes
I can feel the butterflies
I'll love you when you're blue
But tell me darlin' true
What am I to you?
If my sky should fall
Would you even call?
I've opened up my heart
I never wanna part
I'm givin' you the ball
When I look in your eyes
I can feel the butterflies
Could you find a love in me?
Would you gave me a tree?
Don't fill my heart with lies
I will love you when you're blue
But tell me darlin' true
What am I to you?
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
29/4/51
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้...
"มัจจุราชในตัวฉันมันกำลังเกิดขึ้นมาอีกครั้ง.
ความเครียด โมโหร้าย หงุดหงิดมันทำลายทุกสิ่งไปจากฉัน.
ฉันเริ่มสับสนในสิ่งที่กำลังทำ.
แต่ฉันไม่แคร์ ว่าจะดีหรือร้าย.
ความหนาว ความกลัว ว้าเหว่ มันเริ่มเกาะกินใจฉัน.
บางครั้งฉันตื่นมาพร้อมฝันร้าย
บางครั้งฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
มันจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนานเท่าใด นานเท่าใด เท่าใด..
เป็นแค่คำประพันธ์ที่เคยเขียนไว้แต่เด็ก
มันถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจจริง
เคยคิดว่าผมสามารถเอาชนะมัจจุราชร้ายนี้ไปได้แล้ว
ตั้งแต่ผมเจอคุณ ...
ทุกช่วงเวลาที่มีคุณอยู่ด้วยผมคิดว่าเจ้ามัจจุราชร้ายมันได้ไปจากตัวผมแล้ว
ตอนนี้ผมไม่มีความรู้สึกอยาากจะทำอะไรทั้งนั้น
ผ่านไป 2 อาทิตย์ ยังไม่มีผลงานใหม่ๆ ที่ทำงานเสร็ออกมาสักตัว
งานเขียนโปรแกรมขายบัตรผ่านธนาคารกรุงไทก็ยังไม่เริ่มลงมือเขียนสักนิด
นัดจะเทสระบบกันวันที่ 1 พค. ไม่รู้จะได้เริ่มเขียนเมื่อไหร่
งานที่รับแก้โปรแกรมโรงเรียนสอบพิเศษก็ยังไม่เริ่มเขียน
นัดส่งเค้าเสาร์ อาทิตย์นี้ นี่ก็วันอังคารแล้ว
ไม่รู้สิ ... ไม่มีอารมณ์อยากทำอะไรทั้งสิ้นเลย
คิดอยากจะไปให้ไกลๆ พ้นๆ จากสภาพที่เป็นอยู่
แต่ต่อให้ไปไกลสุดขอบโลกก็ตาม เราก็หนีตัวเราเองไม่พ้น
หนีสิ่งที่เราต้องเจอไปไม่ได้
ผมจมอยู่กับสภาพแบบนี้นานเท่าไหร่แล้วน่ะ
มองเห็นแต่เจ้ามมัจจุราชร้ายกำลังยืนแสยะยิ้ม เยาะเย้ยอยู๋ตรงหน้า
แต่จนแล้วจนรอด ผมก็แพ้มันจนได้ครับ
แพ้อย่างราบคาบ ...
ในที่สุดมันก็ชนะผม สภาพของคนที่แพ้มันคงไม่น่าดูเท่าไหร่นักน่ะ
when the sun would fill the sky
remember how we used to feel
those days would never end
those days would never end
remember how it used to be
when the stars would fill the sky
remember how we used to dream
those nights would never end
those nights would never end
it was the sweetness of your skin
it was the hope of all we might have been
that filled me with the hope to wish
impossible things
to wish impossible things
but now the sun shines cold
and all the sky is grey
the stars are dimmed by clouds and tears
and all i wish
is gone away
all i wish
is gone away
all i wish
is gone away
บทเพลงของ robert Smith น่ะ
อาจจะเป็นบทเพลงที่เข้ากับผมตอนนี้เพลงนึงน่ะ
ความจริงผมชอบเพลงนี้มากครับ
เพลงของ The cure ถ้าฟังให้ดีแล้วเพลงจะมีเมโลดี้วนไปวนมา
ใช้โน๊ตหลักไม่กี่ตัว แต่อาศัยเครื่องดนตรีอื่นมาประกอบให้เพลงมีความเพราะขึ้น
อย่างเพลงนี้ To Wish Imposible Things ทำนองวนไปวนมา
แต่เนื้อร้องที่รันทด ทำนองที่เศร้า ฟังดูช่างไรจุดหมายดีจริง
หามาฟังนะครับ มันไม่ได้เศร้าทั้งอัลบัมหรอกครับ ที่เพราะๆ ร่าเริงก็มี
เหมือนชีวิตเรานี่หล่ะ ..
ตอนได้ CD ชุดนี้ดีใจมาก .. เพราะเคยมีเทปอยู่ตอนนี้ฟังไม่ได้แล้ว
เทปยืดหมดแล้ว แล้วชุดนี้ออกมานานแล้วครับ เกือบสิบปีได้
ตอนเจอถึงได้ดีใจ
.....
เท่านี้หล่ะครับ มัจจุราช ฟังเพลงผมนะครับ
ต่อไปนี้ผมจะเปิดเพลงเหล่านี้ให้คุณได้ฟัง
ไปจนสุดปลายทางของชีวิตผม
ถ้าคุณยังยืนยันจะอยู่กับผม และคอยจ้องทำลายชีวิตผมตลอดไป
ผมก็จะคอบเปิดเพลงเพราะๆ เหล่านี้ให้คุณได้ฟังครับ...
คุณมัจจุราช
28/4/51
Tokyo Tower

วันนี้เข้าสยามมาครับ
ไปแก้งานที่รับไว้
แต่ตั้งใจไว้น่ะว่าวันนี้
จะไปดูหนังเรื่องนึง
เข้าที่โรงสยามพอดี
ที่โรงเรียนสอนพิเศษ
โทรมาให้เข้าไปแก้
โปรแกรมเพิ่มเติม
เลยสบโอกาสพอดีครับ
เสร็จจากงานก็วิ่งไป
ซื้อตั๋วเลย ...
เพราะเกือบถึงเวลา
ที่หนังจะฉายแล้ว
ก่อนอื่นขอบอกก่อนน่ะครับว่าทำไมถึงอยากจะดูหนังเรื่องนี้นัก .. ไม่ใช่อะไรหรอกครับ บังเอิญเปิดหนังสือพิมพ์แล้วเห็นเรื่องนี้อยู่ เห็นว่าเป็นหนังญี่ปุ่น เนื้อหาน่าจะดี แล้วก็ได้รางวัลเยอะเลย จากการประกวดภาพยนต์ที่ญี่ปุ่น Japan Academy Award 5 รางวัลการันตีคุณภาพของหนังเรื่องนี้ครับ
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของผู้ชายคนนึงที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของเค้าเป็นหนังสือ ซึ่งภายหลังหนังสือที่เค้าเขียนประสบความสำเร็จอย่างสูงครับ จนเอาไปทำละคร แล้วก็ภาพยนต์
คนที่ถามหาความรัก... ความอบอุ่น ไม่ว่าจะจากพ่อ จากแม่ หรือคนรัก หรือคนที่สับสนกับชีวิตที่ตนเองกำลังเดินอยู่ ไม่รู้ว่าทิศทางที่แท้จริงของตัวเองเดินอยู่ถูกต้องหรือไม่ .. คนที่ไม่มีเป้าหมายของชีวิต สับสนกับชีวิตตัวเอง แนะนำครับ ลองไปชมดู .. หนังไมได้บอกอะไรเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องหรอกครับ แต่ไปดูว่า ในโลกที่กว้างใหญ่นี่ก็ยังมีบางคนที่สับสนกับชีวิตอยู่เหมือนกัน และกว่าจะหาเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองได้ก็ยาวนานอยู่เหมือนกัน..
ลองไดดูกันน่ะครับ เข้าที่ โรงสยาม กับ โรง RCA เท่านั้นน่ะครับ ...
ดูแล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ ว่าคุณร้องไห้ไปกี่รอบ ..
26/4/51
พาไปดูหนังใหญ่วันสงกรานต์ครับ
แหะๆๆ วันนี้ ผมไม่ได้พาไปสาดน้ำกันที่ไหนหรอกนะครับ แต่ว่าจะพาไปเที่ยววัด
ที่แถวราชบุรีครับ .. ที่วัดขนอน ที่นั่นมางานเชิดหนังใหญ่ครับ เคยดูกันหรือเปล่า..?
ที่วัดงานเค้าเริ่มตั้งแต่ห้าโมงเย็นครับ แต่กว่าจะเสร็จธุระต่างๆในวันนั้น
ก็ออกจากกทม. กันทุ่มตรงพอดีครับ ถึงวัดประมาณ สามทุ่ม ครับ
ก่อนอื่นเรามารู้จักประวัติวัดขนอน ที่เราจะไปกันก่อนครับ
=====================================
หนังใหญ่วัดขนอน ได้มีการสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยผู้ที่ริเร่มในการสร้างหนังคือ ท่านพระครูศรัทะาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) เกิด
ปีวอก พ.ศ.๒๓๙๑ มรณะภาพเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๘๕ รวมอายุได้ ๙๕ ปี
โดยหลวงปู่กล่อมได้ชักชวน ครูอั๋ง ช่างจาด ช่างจ๊ะ และช่างพวง มาร่วมกันสร้าง ชุดแรกที่สร้างขึ้นคือ ชุดหนุมานถวายแหวน ต่อมา
ได้สร้างเพิ่มอีกรวม ๙ ชุด ปัจจุบันมีตัวหนัง ๓๑๓ ตัว
นับเป็นสมบัติของวัดที่ได้ร่วมรักษาสืบทอดกันมา เป็นเพียงวัดเดียวที่มีมหรสพเป็นของวัด
มีตัวหนัง และคณะหนังใหญ่ที่สมบูรณ์อยู่ในความอุปถัมภ์ของวัดสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
แหล่งข้อมูลครับ http://ratchaburi.doae.go.th/Photharam/kanon.htm
เดินเข้าในบริเวณวัดด้านขวามือเราจะพบกับเรือนไม้หลังใหญ่ที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหนังใหญ่ครับ
เราเข้าไปดูข้างในกัน...

หนังใหญ่ที่จัดแสดง
จะวางตั้งไว้เป็นฉากๆ
ให้เราได้เดินชมกัน
มากมาย แต่ละตัวอายุ
มากกว่าเราอีกน่ะครับ

สภาพเก่าเก็บน่าดูเลยน่ะครับ

งานที่แกะเป็นหนังใหญ่จะมีความละเอียดมาครับ
ตัวนึงน่าจะใช้เวลาหลายเดือนอยู่

เทียบกับตัวเพื่อนผมดิครับ ตัวพอๆ กัน น่ะ
สูงเอาเรื่องน่ะ


ว่า.. แล้วตอนเชิดเนี่ย เค้าจะเชิดกันยังงัย
ตัวออกจะใหญ่อย่างนี้น่ะครับ

ท่านพระครูศรัทาสุนทร (หลวงปู่กล่อม)
ผู้ที่อนุรักษณ์ความเป็นไทยให้เรา
ที่เป็นลูกหลานได้ดูกันครับ


ข้างนอกกำลังมีการแสดงโขน รามเกียรติ์กันครับ
โดยใช้นักแสดงเป็นเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่แถวนั้น

สบาย สบาย .. ปูเสื่อนั่งดูโขนกัน


ค่าชมหลายพันอยู่ แต่นี่ดูฟรีครับ ..

การเชิดหนังใหญ่ที่หาชมได้ยาก

ก็เด็กที่เล่นโขนเมื่อสักครู่เนี้ยหล่ะครับ

เพื่อให้เกิดแสงกระทบที่ฉาก จะได้เกิดความสวยงาม

ตัวละครจะเริ่มวิ่งจากหลังจากแล้วม้วนออกไปสู้หน้าฉากครับ

เดินกันเป็นแถว พร้อมเพรียงเลย

ลักษณะการเชิดครับ
ต้องถือไว้แบบนี้เปนชั่วโมง
หนักนะครับ นั่น ทำจากหนังควาย

จำได้ว่าเป็นพระรามกำลังทำศึกกับใครไม่รู้ จำไม่ได้น่ะครับ


คิดอยู่ตั้งนานว่า ถ้าตอนตีกันจะเป็นอย่างไร

คนดูก็นั่งกัน สบาย เฉิบ เลย


ติดจอ

ต่อไปข้างๆก็จะมีเชิดหนังตะลุงกัน เรารีบไปดูกันดีกว่าครับ

ย้ายเสื่อมา ก็เรียบร้อย

นั่นหล่ะ คือตัวหุ่น เอาไว้เชิด

คนเล่นก็ประมาณ 5 คนเท่านั้นครับ
แต่ขอบอกว่า สนุกเป็นบ้า เลยยย

ว่าอยู่ดีมีสุขกันหรือเปล่า

ถ่ายมาไม่มากเท่าไหร่ครับ เพราะฟิล์มจะหมดแล้ว

จบจไปด้วยดีครับ ทริปนี้...
เค้าจะมีการแสดงเชิดหนังใหญ่ทุกวันเสาร์ เวลา 10 โมงเช้า
แล้วก็ วันอาทิตย์ 5 โมงเย็น
ไปดูครับ สิ่งบรรเทิงของเรา ที่เรียกว่า สุดยอดแล้วในสมัยนู้นนน
ถ้าตอนนี้ก็เทียบได้กับ I-Max ล่ะครับ
เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่เรามีเนี่ย มันมีคุณค่ามากมายขนาดไหน
ขอบอกครับ ว่า สุดยอด จริงๆ ...
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ทริบหน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
จะพาไปเที่ยว จ. พังงา กัน
15/4/51
ถามหาตำตอบให้ตัวเอง
การบ้าน database ส่งวันเสาร์นี้แล้ว ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย
วันนี้เดินออกไปหาของกินที่โลตัส สาตาแวปไปเห็นหนังสือขึ้นปกไว้
เป็นรูป อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ .. ขึ้นปกว่า สิ่งที่ทุ่มเททั้งชีวิต .. .
ไม่ได้หยิบขึ้นมาดูหรอกครับ .. เพียงแต่มองเห็นแวปเดียว สมองก็คิดไป
ผมเกิดมาบนโลกใบนี้แล้ว 34 ปี นานโขพอดู ..
ก็คิดว่าเราได้ลองทุ่มเททำอะไรที่ตัวเองอยากทำ
ทั้งชีวิตมั่งหรือเปล่า ..
ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมั่งไหม
ทำในสิ่งที่ อาจจะต้องใช้เวลา ประสพการณ์ ที่ยาวนาน
จนได้ผลลัพธ์ที่น่าภูมิใจออกมา
คิดไม่ออก จำเป็นไหมน่ะ ที่เราต้องทำแบบนี้ด้วย
ถ้าไม่ทำแล้วมันจะเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ ..
มีลูก ลูกจะถามไหมน่ะ มันจะภูมิใจในตัวเราหรือเปล่า
แล้วเราจะมีอะไรไปเล่าให้ลูกมันฟังไหมน่ะ ...
คิดน่ะ ว่าการเป็นผู้ใหญ่มันยากไหม?
มันจะวุ่นวายมากมายหรือเปล่า...
อนาคตเป็นไง ถ้าเรามีครอบครัว ที่ต้องดูแล ที่ต้องรับผิดชอบ
ต่อไป จะมีดวงตาอีกสองคู่ สามคู่ สี่คู่ มองมาที่เรา รอเราว่าจะตัดสินใจ
กับครอบครัวยังงัย จะพาครอบครัวเดินไปทางไหน ..
ลงเหว หลงป่า .. หรือไปถึงจุดหมายได้ไหม?
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ... เฮ้ออออ ...
11/4/51
ทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด
*****************
ฉันเรียนรู้เรื่องราวของความรัก ที่อยู่เหนือความเห็นแก่ตัว
ด้วยบทเพลงที่เธอมอบให้
บทสรุปของความรัก
จะไม่เจ็บปวดเลย...แม้ท้ายที่สุดแล้วเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เพราะในวันนี้ แค่เพียงได้รู้ว่า...
ครั้งหนึ่งของชีวิตที่ได้รักคนดีดี ในแบบที่เธอเป็น
ก็สุขใจเพียงพอแล้ว แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
ผ่านมาจนวันนี้ เกือบปีแล้วสินะ
ถ้าจะมีคำถาม - - - หากย้อนเวลากลับไป
ฉันจะแก้ไขอะไรในความสัมพันธ์
คำตอบคือ ฉันยินดีที่จะปล่อยให้ความงดงามระหว่างเรา
เกิดขึ้นและดำเนินเช่นที่เป็นอยู่นี้
ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งใด
เพราะฉันเชื่อว่า เราต่างปฏิบัติต่อกันอย่างดีที่สุดแล้ว
และฉันยอมรับในทุกการกระทำ การตัดสินใจ
แม้ในหลายๆครั้งมันอาจจะสร้างความเจ็บปวดให้กับความรู้สึกในส่วนลึก
ในแบบที่เธอไม่มีโอกาสจะได้พบเห็น ก็ตามที
แต่กระนั้นฉันก็ยังคงภูมิใจ ที่เลือกฝากความรักครั้งนี้ไว้กับเธอ
รักษาระยะห่างระหว่างเราไว้เถิดนะ
เพื่อความลงตัวในความต่างของชีวิต
เพียงรู้ว่าฉันจะยังเป็นคนเดิมอยู่ตรงนี้
เมื่อวันที่เธอหวนกลับมา...อีกครั้ง...ก็เพียงพอ
******************
8/4/51
6/4/51
{ Inside.. }
Are you sleeping here beside me
Are you shining bright as the sky
Are you breathing now inside me
There's no ending when we die